นางจตุพร เนียมสุข ผู้ช่วยปลัดกระทรวงคมนาคม ร่วมงานกิจกรรม หยุดสูญเสีย หยุดรถ ให้คนข้ามทางม้าลาย #ความดีที่คุณทำได้ ครั้งที่ 7 “คมนาคมขนส่งไทยขับขี่ปลอดภัยทุกการเดินทาง” จัดโดยคณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก และภาคีเครือข่าย โดยมี นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก พร้อมคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน ในวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ณ ห้องประชุมมาตุลี ชั้น 3 อาคารศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีการขนส่งทางถนน (GPS) กรมการขนส่งทางบก
นางจตุพร เนียมสุข กล่าวว่า จากรายงาน GLOBAL STATUS REPORT ON ROAD SAFETY ปี 2561 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่า ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตบนท้องถนนสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในเอเชีย โดยอยู่ที่ 32.7 คน ต่อประชากร 1 แสนคน และจากข้อมูลระบบบูรณาการการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนหรือข้อมูล 3 ฐาน พบว่า เฉลี่ยปี 2557 – 2564 มีผู้เสียชีวิตประมาณ 17,200 คน ซึ่งคนเดินเท้าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการประสบอุบัติเหตุหากถูกรถชนจะมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ในหนึ่งปีมีคนเดินเท้าเฉลี่ยปีละ 740 คน ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุถูกรถชน กลุ่มผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น อายุระหว่าง 15 – 19 ปี และกลุ่มผู้ใหญ่ อายุระหว่าง 50 – 69 ปี ส่วนใหญ่ถูกรถจักรยานยนต์ชน รองลงมาคือรถยนต์และรถบรรทุก คนเดินเท้าทั่วประเทศมีสัดส่วนการเกิดอุบัติเหตุในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร สูงถึง 1 ใน 3 คิดเป็น 34% เมื่อเทียบกับจำนวนการรับแจ้งทั่วประเทศ ถนนในกรุงเทพมหานครมีคนเดินเท้าเสียชีวิตเฉลี่ยปีละ 250 คน
และหากดูที่จำนวนคนเดินเท้าที่โดนรถชนจากสถิติบริการ “ผู้ป่วยใน” เรื่องจำนวนผู้ป่วยในทั่วประเทศ คนเดินเท้าเสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนเฉลี่ย 6,267.75 รายต่อปี ซึ่งกลุ่มคนเดินเท้าส่วนใหญ่ หรือ 56.27% บาดเจ็บเพราะถูกรถจักรยานยนต์ชน โดยเป็นเด็กอายุระหว่าง 0 – 9 ขวบ บาดเจ็บและเสียชีวิตรวมกันมากที่สุด รองลงมาคือกลุ่มผู้ใหญ่ อายุระหว่าง 45 – 59 ปี
กระทรวงคมนาคม ในฐานะที่กำกับดูแลหน่วยงานด้านการคมนาคมขนส่งมิได้นิ่งนอนใจในปัญหาดังกล่าว จากนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ได้ให้ความสำคัญและเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยทางถนน ในการป้องกันและลดจำนวนสถิติการเกิดอุบัติเหตุลดจำนวนผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ความรุนแรงของอุบัติเหตุทางถนน และลดความเสี่ยงหรือโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุทางถนน กระทรวงคมนาคมจึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่ดูแลทางถนนดำเนินการด้านความปลอดภัยต่าง ๆ กับผู้ใช้รถใช้ถนน
โดยพิจารณาแก้ไขปรับปรุงถนนและสภาพแวดล้อมข้างทางที่อาจเป็นจุดเสี่ยง จุดอันตราย ทางแยก ทางโค้ง ให้มีความปลอดภัย รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยต่าง ๆ อาทิ ไฟฟ้าแสงสว่าง ไฟสัญญาณจราจร ราวกั้นบริเวณทางโค้งหรือทางลงเขาลาดชัน จัดทำทางข้ามที่ปลอดภัยและก่อสร้างสะพานลอยให้คนเดินข้าม ในบริเวณที่มีความจำเป็น รวมถึงได้มีโครงการสร้างความปลอดภัยในการข้ามถนนในบริเวณพื้นที่หน้าโรงเรียน โดยให้มีการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยต่าง ๆ เพิ่มเติมเป็นพิเศษ และในส่วนของความปลอดภัย บริเวณจุดตัด ทางรถไฟ ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางราง ทำการสำรวจทางลักผ่านจุดตัดทางรถไฟ และวางมาตรการเพิ่มความปลอดภัยในจุดตัดต่าง ๆ อาทิ ป้ายเตือน ไฟกะพริบ
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมมีโครงการความร่วมมือกับรัฐบาลประเทศญี่ปุ่น ผ่านโครงการความช่วยเหลือองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ในโครงการ “The Project on Capacity for Road Traffic Safety Institutions and Implementation in the Kingdom of Thailand” ซึ่งดำเนินงานการศึกษาและวางแผนด้านความปลอดภัยทางถนน รวมทั้งลดจำนวนผู้สูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนใน 4 ด้าน ดังนี้
1. การพัฒนาและปรับปรุงระบบการจัดการข้อมูลสารสนเทศอุบัติเหตุจราจรทางถนนใหม่ (New-TRAMS) เพื่อให้เกิดความถูกต้องน่าเชื่อถือ
2. การศึกษามาตรการด้านวิศวกรรมความปลอดภัยทางถนนผ่านการดำเนินกิจกรรมโครงการนำร่องบนทางหลวง/มอเตอร์เวย์ และจัดทำคู่มือ “Best Practice for Road Safety Manual”
3. การศึกษาการดำเนินงานด้านความปลอดภัยทางท้องถนนสำหรับทางหลวงชนบท/ถนนท้องถิ่น ผ่านการดำเนินกิจกรรมโครงการนำร่อง
4. ศึกษาการบริหารจัดการเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตขับขี่และการดำเนินงาน/การจัดการ ด้านความปลอดภัยสำหรับยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์
จากการประเมินสำรวจข้อมูลสถิติในส่วนของผู้เสียชีวิตที่เกิดจากอุบัติเหตุจราจรพบว่า ปี 2564 มีคนผู้เสียชีวิต 16,957 คน ลดลงจากปี 2563 และปี 2562 ซึ่งมีจำนวน 17,831 ราย และ 19,904 ราย ตามลำดับ ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมยังคงเดินหน้าดำเนินงานเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่องต่อไป
ในโอกาสนี้ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สมาชิกวุฒิสภา และประธานคณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา ได้มีข้อเสนอเชิงนโยบายเสนอต่อกระทรวงคมนาคม ในฐานะองค์กรที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และมีความพร้อมในการกำกับดูแล มีกำลังคน รวมถึงทุกหน่วยงานในสังกัดที่จะร่วมดูแลความปลอดภัยทางถนนให้บรรลุความสำเร็จ ในประเด็นความปลอดภัย 3 ด้าน ดังนี้
1. ด้านผู้ใช้รถใช้ถนน โดยกรมการขนส่งทางบก เช่น กำหนดเนื้อหาของการอบรม การสอบใบอนุญาตขับขี่ และการสื่อสารที่สร้างความปลอดภัยกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์
2. ด้านสภาพแวดล้อม โครงสร้างและถนน โดยกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท เช่น ถนนเขตเมือง เขตชุมชน ต้องมีมาตรการลดความเร็ว กำหนด Speed Zone จัดทำมาตรการด้านการชะลอความเร็ว (Traffic Calming)
3. ด้านการบริหารจัดการ โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม และสำนักอำนวยความปลอดภัย กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท เช่น เร่งรัดติดตามการพัฒนาระบบข้อมูลด้านอุบัติเหตุทางถนนให้นำมาใช้งานเพื่อการวางแผน กำกับติดตาม และประเมินผล