+ ฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก
+ ปริมาณฝน 24 ชั่วโมง สูงสุดที่ จ.สุราษฎร์ธานี (76) จ.อุบลราชธานี (63) และ จ.กาญจนบุรี (49)
+ แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
+ ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 48,678 ล้าน ลบ.ม. (59%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 42,374 ล้าน ลบ.ม. (59%) เฝ้าระวังน้ำต่ำกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 1 แห่ง บริเวณภาคเหนือ เฝ้าระวังน้ำสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ แม่งัด กิ่วคอหมา กิ่วลม ป่าสักฯ อุบลรัตน์ น้ำพุง หนองปลาไหล บางพระ และบึงบระเพ็ด
+ เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงบริเวณริมแม่น้ำโขง ตั้งแต่ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ที่อาจได้รับผลกระทบจากระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นประมาณ 1.0 – 2.0 ม. อย่างฉับพลัน ในช่วงวันที่ 14 – 18 ส.ค. 65 เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก – ดินถล่ม บริเวณ จ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา ระยอง และตราด
+ สทนช. ติดตามแผนการบริหารจัดการน้ำและสถานการณ์น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
วันที่ 14 ส.ค. 65 ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามแผนการบริหารจัดการน้ำและสถานการณ์น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ณ โครงการเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.สระบุรี และ จ.ลพบุรี เนื่องจากปัจจุบันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve) โดยขณะนี้มีปริมาณน้ำ 442 ล้าน ลบ.ม. หรือ 46% ของความจุอ่างฯ ซึ่งเขื่อนมีแผนการระบายน้ำเพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับปริมาณฝนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในช่วง 16-20 ส.ค. 65
สทนช.ได้เน้นย้ำในช่วงที่มีการปรับเพิ่มการระบายน้ำตั้งแต่ 15 ส.ค.นี้ จนกระทั่งปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ควบคุม ภายในวันที่ 25 ส.ค. 65 โดยให้มีการบริหารจัดการน้ำจากเขื่อนลงสู่แม่น้ำป่าสักในระดับที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักด้านท้ายเขื่อนให้น้อยที่สุด รวมถึงวางระบบการแจ้งเตือนให้พื้นที่เสี่ยงให้รับทราบล่วงหน้าและทั่วถึงโดยใช้เกณฑ์การระบายน้ำต่ำสุดที่ 500 ลบ.ม./วินาทีที่ส่งผลกระทบกับพื้นที่เสี่ยงในปี 64 รวมทั้งสิ้น 15 จุดมาเป็นเกณฑ์การแจ้งเตือนประชาชนในการขนย้ายสิ่งของล่วงหน้า
อาทิ ตลาดน้ำต้นตาล ต.ต้นตาล อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ซึ่งเป็นจุดที่มีการรุกล้ำลำน้ำ ตลาดน้ำพระยาทด ต.พระยาทด อ.เสาไห้ จ.สระบุรี บ้านหนองกรด ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เป็นต้น ขณะเดียวกัน อัตราการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จะต้องพิจารณาถึงปริมาณน้ำที่จะมีการระบายจากเขื่อนเจ้าพระยาร่วมด้วย