รมว.พม. นำทีม พม. พร้อมเครือข่าย ทำกิจกรรม “บ้านฟ้าใสใจอาสา ทำดีเพื่อแม่ 12 สิงหาคม 2565 ครบ 90 ปี พระพันปีหลวง” ช่วยกลุ่มเปราะบางในชุมชนวัดสุวรรณาราม กทม.

วันที่ 9 ส.ค. 65 เวลา 15.00 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวง พม. ลงพื้นที่ ณ ลานกีฬาชุมชนวัดสุวรรณาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เพื่อเปิดกิจกรรม “บ้านฟ้าใสใจอาสา ทำดีเพื่อแม่ 12 สิงหาคม 2565 ครบ 90 ปี พระพันปีหลวง” เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นอเนกประการเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทย โดยมี นายชนินทร์ รุ่งแสง ผู้แทนกลุ่มอาสาก้าวด้วยใจไปด้วยกัน กล่าวรายงาน

นายจุติ กล่าวว่า กิจกรรม “บ้านฟ้าใสใจอาสา ทำดีเพื่อแม่ 12 สิงหาคม 2565 ครบ 90 ปี พระพันปีหลวง” เป็นหนึ่งในกิจกรรมการให้ความดูแลกลุ่มเปราะบางทั่วประเทศ ซึ่งเราดูแลเรื่องปัจจัย 4 ของพี่น้องประชาชน คือ บ้านที่อยู่อาศัย และเราได้ทำเพิ่ม โดยการดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ที่อยู่อาศัยด้วย ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันทุกกระทรวง วันนี้ ผู้แทนจากกองทัพเรือได้ส่งแรงงานเข้าไปช่วย และนายชนินทร์ รุ่งแสง ได้ไปขอการสนับสนุนจากภาคเอกชน คือ มูลนิธิเอสซีจี เรื่องวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเราจะทำให้ได้ 90 หลัง เน้นการซ่อมหลังคา ฝ้าไม่มี พื้นชำรุด หรือทุกอย่าง โดยจะซ่อมให้ฟรี

และเนื่องจากเดือนสิงหาคมนี้เป็นเดือนมหามงคลของคนไทยทั้งประเทศ เราเชื่อว่าถ้าเอกชน ประชาชน และรัฐบาล ไม่ได้ร่วมมือกันในวันนี้ ก็จะทำไม่ได้ทั่วถึง รัฐบาลจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยกระทรวง พม. ดูแลทุกกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่เกิดจนตาย เพราะครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ เป็นสถาบันหลักของประเทศไทยและคนทั่วทั้งโลก ถ้าครอบครัวมีความสุข สังคมก็จะเข้มแข็ง ซึ่งเราพยายามทำให้ครอบครัวเข้มแข็งอยู่กันด้วยความสุข ทั้งนี้ เราจะไปทำทั่วประเทศ และชุมชนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนใน กทม.

นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจกรรม “บ้านฟ้าใสใจอาสา ทำดีเพื่อแม่ 12 สิงหาคม 2565 ครบ 90 ปี พระพันปีหลวง” กระทรวง พม. ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานเขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร กลุ่มอาสาก้าวด้วยใจไปด้วยกัน สถาบันการชีวศึกษา ฐานทัพเรือ กรุงเทพมหานคร มูลนิธิเอสซีจี และภาคีเครือข่าย

โดยมีการมอบความช่วยเหลือต่างๆ ให้แก่กลุ่มเปราะบางในชุมชนวัดสุวรรณาราม อาทิ มอบอุปกรณ์ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย 90 หลังคาเรือน ถุงยังชีพ 50 ครอบครัว เงินสงเคราะห์ครอบครัว 40 ครอบครัว เงินทุนประกอบอาชีพสำหรับผู้สูงอายุ 12 ราย อุปกรณ์กีฬาสนับสนุนกิจกรรมนันทนาการให้กับเด็กและเยาวชน ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ รถโยกและรถวีลแชร์สำหรับผู้พิการ

อีกทั้งยังเปิดบูทบริการด้านสวัสดิการสังคม โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เช่น บริการตัดผมฟรี สาธิตการฝึกอาชีพ และการสมัคร Application Family Line ให้คำปรึกษาครอบครัว