ก.แรงงานเฟ้นหาหัวกะทิยกระดับป้อนอุตฯขนส่งและโลจิสติกส์

ก.แรงงาน เปิดสนามสอบคัดเลือกป.ตรี และผู้ว่างงาน เข้าอบรมหลักสูตรธุรกิจรับส่งสินค้าระหว่างประเทศ การันตีฝึกจบมีงานทำทันที

นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ 1ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต เป็นรากฐานสำคัญ ของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นกลไกที่ส่งผ่านมูลค่าของสินค้าและบริการจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภค การพัฒนาบุคลากรในอุตาหกรรมนี้ให้มีคุณภาพ จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มผู้จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน ในฐานะหน่วยงานหลัก จึงมีนโยบายที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาแรงงานคุณภาพ หรือ super worker ตามนโยบาย 3 A โดยบูรณาการความร่วมมือในรูปแบบประชารัฐกับสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (TIFFA) และโรงเรียนธุรกิจการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศ (ITBS) จัดฝึกอบรม เพื่อผลิตแรงงานคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการ ในภาคอุตสาหกรรมนี้ ทั้งนี้ยังสามารถช่วยลดปัญหาการว่างงานของผู้จบปริญญาตรีอีกด้วย

ตั้งแต่ปี 2558 ได้มีการดำเนินการพัฒนาทักษะให้แก่ผู้ที่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ที่ต้องการ re-skill เพื่อทำงานในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไปแล้ว 206 คน โดยผู้ผ่านการฝึกอบรมได้รับการบรรจุงานทุกคนและมีรายได้เฉลี่ย 20,000 บาท / เดือน สำหรับปี 2562 กพร. ตั้งเป้าผลิตบุคลากรเพิ่มอีก 300 คน ปัจจุบันดำเนินการแล้ว 4 รุ่น ๆ ละ 50 คน รวม 200 คน ซึ่งจากการสำรวจพบว่าผู้ผ่านการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีงานทำและอาชีพที่แน่นอน ดังนั้น เพื่อดำเนินการอย่างต่อเนื่อง กพร.จึงจัดให้มีการทดสอบและประเมินความรู้ความสามารถ เพื่อคัดเลือกผู้ที่เหมาะสม เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตร “ธุรกิจการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศ” ตามโครงการพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์ รองรับธุรกิจการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศ โดยจัดให้มีการวัดความรู้เบื้องต้นด้านโลจิสติกส์ ความรู้ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2562 จากนั้นมีการสอบสัมภาษณ์ เพื่อทำการคัดเลือกผู้สมัคร 100 คน จากผู้สมัครทั้งสิ้น 197 คน

อธิบดี กพร. ยังกล่าวต่อไปว่า การอบรมจะมีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยฝึกภาคทฤษฎีช่วง ระหว่างวันที่ 24 พ.ค. – 12 ก.ค. 2562 และการฝึกภาคปฏิบัติ ระหว่างวันที่ 18 ก.ค. – 10 ก.ย. 2562 ระหว่างการฝึกภาคทฤษฎี 2เดือน สถานประกอบการที่รับผู้ฝึกอบรมเข้าไปฝึกงาน จะช่วยทำหน้าที่คัดกรอง เพื่อเฟ้นหาผู้ที่เหมาะสมส่งไปฝึกภาคปฏิบัติในตำแหน่งที่เหมาะสม และรับเข้าทำงานต่อไป ซึ่งเป็นการการันตีว่าผู้ผ่านการฝึกอบรมสามารถมีงานทำแน่นอน

ด้าน นายเสก สุขวงศ์ อายุ 26 ปี กล่าวว่า เดิมทำงานเป็นพนักงานประจำฝ่ายบริการลูกค้าแต่ไม่ถนัดงานด้านนี้ จึงคิดอยากจะเปลี่ยนงาน ทราบข่าวว่ากรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มีโครงการนี้ เลยสนใจและภาคขนส่งและโลจิสติกส์ของประเทศกำลังเติบโต และต้องการบุคลากรจำนวนมาก จึงเข้ามาสมัคร และเตรียมตัวด้วยการค้นคว้าหาความรู้ทางอินเทอร์เน็ตเพิ่มเติม จึงมีความมั่นใจพอสมควร แต่ไม่ถนัดด้านภาษาอังกฤษเนื่องจากใช้น้อย หากผ่านการทดสอบครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ และไม่เพียงแค่ตนแต่ยังรวมถึง ผู้ว่างงานและผู้ที่เพิ่งจบปริญญาตรี ยังมีโอกาสเพิ่มพูนประสบการณ์และช่องทางในการประกอบอาชีพด้วย ถ้าไม่ผ่านก็ถือเป็นประสบการณ์เพื่อกลับไปเตรียมตัวให้ดีกว่าเดิมและกลับมาทดสอบอีกครั้งอย่างแน่นอน

ด้าน น.ส.อังศุมาลี มีภู่เพ็ง อายุ 22 ปี เปิดเผยว่า ตนเพิ่งจบการศึกษาระดับปริญญาตรี แต่ไม่ใช่ด้านโลจิสติกส์ ทราบข่าวโครงการจากอาจารย์ผู้สอน ซึ่งเป็นช่วงที่ตนกำลังว่าง และหางานอยู่ จึงตัดสินใจสมัครเข้ามาสอบ เพราะผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในครั้งนี้เมื่อจบการฝึกอบรมแล้วจะได้รับการบรรจุเข้าทำงานทันที จึงเห็นโอกาสของเราที่จะได้งานทำ .