ปลัดสธ.ย้ำประชาชนเข้มป้องกันโควิด19 ต่อเนื่อง ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หลังพบสัญญานจำนวนผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้น

วันที่​ 25 กรกฎาคม​ 2565​ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวง​สาธารณสุข​ เป็น​ประธาน​​ประชุม​ศูนย์​ปฏิบัติการ​ฉุกเฉิน​ด้าน​การแพทย์แล​ะสาธารณสุข​กรณี​ โร​คติดเชื้อไ​วรัสโคโรนา​ 2019​ (COVID-19) กระทรวง​สาธารณสุข​ ผ่านระบบทางไกล (VDO Conference) กับผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อประเมินและติดตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคโควิด19

ปลัดกระทรว​งสาธารณสุข​ กล่าวว่า​สถานการณ์​โรคโค​วิด-​19​ ในประเทศ​ไทย​ มีแนวโน้ม​พบ​ผู้ป่วยกำลังรักษา​ ผู้ป่วย​หนัก​ เพิ่มขึ้น​ ​ขณะที่​ผู้ป่วย​เสียชีวิตจากโรค-19​ อยู่ในระดับทรงๆ โดยพบว่ามีสัญญาณ​ของจำนวน​ผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้น​ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะ​ กทม.และ​ปริมณฑล​ และจังหวัด​ท่องเที่ยว​

ทั้งนี้​ในส่วนของกลุ่มเด็ก ได้ให้​ทุกรพ.​ รายงาน​ผู้ป่วย​เด็กที่มีอาการ​ป่วยรุนแรง​หลังติดเชื้อ​โควิด​-19​ (MIS-C)​ ในรูปแบบ​ Event-based​ ​surveillance ตามระบบเฝ้าระวังรวมทั้งผลการสอบสวนโรคเบื้องต้น​ เพื่อให้สามารถ​ติดตาม​สถานการณ์​การแพร่ระบาด และใช้เป็นข้อมูล​ประกอบการสื่อสารย้ำเตือน กระตุ้นให้ผู้ปกครองเร่งพาเด็กอายุ​ 5-18 ปี เข้ารับการฉีดว​ัคซีนโควิดที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง

ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวต่อว่า ได้ให้​ทุกจังหวัด​ดำเนินการค้นหาปัจจัย​เสี่ยงการแพร่โรค​ รวมทั้งวิเคราะห์​สถานการณ์​โรคในพื้นที่​ เพื่อการเฝ้า​ระวังโรค​โควิด​-19​ ในพื้นที่ โดยเฉพาะ​กลุ่มเสี่ยง​ที่พบอาการ​ป่วยรุนแรง​และเสียชีวิต​ พร้อมทั้งดำเนินการ​ตามแผนเผชิญ​เหตุ​ ดังนี้

1. บริหารจัดการ​เตียงในโรงพยาบาลรองรับผู้ป่วยให้สมดุล​ทั้งเพื่อรองรับผู้​ป่วย​โควิด-​19​ และผู้ป่วยโรคอื่น​ ตามมาตรการ 3 พอ

2.ขอความร่วมมือประชาชนให้คงมาตรการ​ป้องกัน​โรค​ส่วนบุคคล​หรือ Universal Prevention (UP) อย่างต่อเนื่อง โดยให้สวมหน้ากาก​อนามัยตลอดเวลา​ โดยเฉพาะ​ ขณะใช้บริการ​ขนส่ง​สาธารณะ​ทุกประเภ​ท​ เช่น​ เครื่อง​บิน​ รถประจำทาง​ และขณะร่วมกิจก​รรมกับคนจำนวนมาก​ รวมทั้งการเว้นระยะ​ห่าง​ตามความ​เหมาะสม​ หลีกเลี่ยงการร่วมกิจกรรมกับคนจำนวนมากที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือด้วยแอลกอฮอล์ 70% เพื่อกำจัดเชื้อออกจากมือหลังสัมผัสสิ่งของต่างๆ

3.ดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด19เข็มกระตุ้นให้กลุ่ม 608 เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันอย่างเพียงพอ ซึ่งจะช่วยป้องกันการป่วยหนักหรือเสียชีวิตได้หากติดเชื้อ โดยขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดเตรียมวัคซีนไว้อย่างเพียงพอแล้วทุกจังหวัด
นอกจากนี้​ ให้รพ.พิจารณา​ใช้​ LAAB (Long Acting Antibodies ) สำหรับ​กลุ่มเสี่ยงตามเกณฑ์​ เพื่อลดการป่วยหนัก​ และเสียชีวิต​ โดยเฉพาะ​ในกลุ่มที่ได้รับวัคซีน​เข็ม​กระตุ้น​แล้วแต่ยังมีภูมิ​คุ้มกัน​ไม่เพียงพอ

#กรมสุขภาพจิต