กรมการแพทย์แผนไทยฯ ชูอัตลักษณ์ “เพชรบุรี” จังหวัดนำร่องเส้นทางเมืองสร้างสรรค์ยูเนสโกด้านอาหาร ผลักดันนโยบายกินอาหารให้เป็นยา

หลังจากยูเนสโกประกาศให้จังหวัดเพชรบุรีประจำปี 2564 ในสาขาเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก สนองนโยบายผลักดันกินอาหารให้เป็นยา โดยหยิบยกตำรับอาหารเมืองเพชรบุรีเมือง 3 วัง 3 รส มาจัดแสดงให้ ช้อป ชิม โชว์ ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 19 ให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมย้อนอดีตลิ้มรสชาติอาหารไทยโบราณแบบฉบับชาววังที่มากด้วยคุณค่าทางโภชนาการช่วยปรับระบบธาตุในร่างกาย

อาจารย์ฉัตร์วนิชย์ พวงมาลัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนไทยประยุกต์ จังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า การที่จังหวัดเพชรบุรีสามารถคว้ารางวัลเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารจากยูเนสโก เริ่มต้นจากทางจังหวัดมีการสำรวจว่าจังหวัดเพชรบุรีมีชื่อเสียงและความเข้มแข็งด้านใด และเล็งเห็นว่าจังหวัดมีชื่อเสียงด้านอาหารจึงหยิบยกอัตลักษณ์ของเพชรบุรีมานำเสนอ สาเหตุเพชรบุรีมีความโดดเด่นด้านอาหารเพราะเคยเป็นเมือง 3 วัง ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ทำให้ เห็นเรื่องราวเชื่อมโยงอาหารการกินจากอดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะมีอาหารชาววังเป็นต้นแบบ จนจังหวัดเพชรบุรีได้รับการประกาศเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก

ตำรับอาหารจังหวัดเพชรบุรีส่วนใหญ่มีสรรพคุณเป็นยาและใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นดั้งเดิม อาหารเกือบทุกชนิดจะมีสมุนไพรเป็นส่วนผสม เช่น ขนมจีนทอดมัน ทอดมันเนื้อปลาฉลาด ปลาฉลาดเป็นปลาธรรมชาติในแม่น้ำเพชรบุรี มีความเหนียวนุ่มทานคู่กับ น้ำจิ้มมีรสเปรี้ยวหวานเป็นตัวช่วยปรับสมดุลร่างกาย มีเครื่องเทศช่วยระบบย่อยให้ดีขึ้น

ขนมจีนกับน้ำยาต่างๆ น้ำยาปลาช่อน เป็นปลาชนิดเดียวที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย ทานคู่กับใบแมงลักและถั่วงอก ส่วนน้ำพริกเครื่องเคียงทานคู่กับหัวปลีและมะละกอพันธุ์ดำเนินสะดวก ขนมจีนซาวน้ำ จะมีกระเทียม พริก มะนาวช่วยขับเสมหะ ผักเครื่องเคียงเริ่มจากสับปะรดตาดำ ปลูกเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีทานแล้วไม่แสบลิ้น มีรสเปรี้ยวช่วยขับเสมหะ ถั่วปลูกและคั่วด้วยวิธีธรรมชาติ กุ้งแห้งมาจากแหล่งในจังหวัดเพชรบุรีเป็นเมืองประมง ด้านของหวานลูกตาลลอยแก้วใช้น้ำตาลโตนดจะช่วยปรับระดับน้ำตาล เม็ดแมงลักมีสรรพคุณช่วยระบบย่อยอาหาร วัตถุดิบใช้การปลูกในพื้นที่และผลิตด้วยกรรมวิธีทางธรรมชาติ ข้าวต้มน้ำวุ้นใช้ตำรับการทำแบบโบราณใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูต้มด้วยเตาถ่านทั้งวันจะได้รสสัมผัสที่เหนียมนุ่ม ส่วนน้ำลอยดอกมะลิช่วยบำรุงหัวใจไม่ทำให้อ่อนเพลีย ช่วยฟื้นไข้ แต่หัวใจหลักจะทำให้อร่อยอยู่ที่น้ำตาลโตนดเคี่ยวเป็นคาราเมล

“เมื่อยูเนสโกยกให้เพชรบุรีเป็นเมืองเครือข่ายสร้างสรรค์ทางด้านอาหาร เพชรบุรีจึงกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของประเทศ ทางจังหวัดจึงนำมาต่อยอดเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ดำเนินการมา 2 ปีแล้ว โดยนำอาหารชาววังมาเป็นเส้นทางอาหารยูเนสโก จัดเป็นโปรแกรม 3 วัน 2 คืน เป็นคอร์สการดูแลปรับระบบร่างกายด้วยอาหารและได้รับ ผลตอบรับที่ดี พร้อมกับมีการติดต่อขอกลับมาร่วมโปรแกรมอีกครั้ง ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
จังหวัดเพชรบุรีขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติและความหลากหลายของอาหาร อาทิ ก๋วยเตี๋ยวน้ำแดง แกงคั่วหัวตาล ขนมจีนซาวน้ำ น้ำพริก น้ำยาแกงเขียวหวาน ทอดมัน น้ำตาลโตนด ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ”อาจารย์ฉัตร์วนิชย์ กล่าวปิดท้าย

ขอเชิญประชาชนที่สนใจสามารถร่วมงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติฯ ครั้งที่ 19 เหลือเวลาอีก 2 วันระหว่างวันที่ 9-10 กรกฎาคม 2565 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 11-12 พบกับกิจกรรมต่างๆ อาทิ โซนจัดแสดงสินค้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยที่มีมาตรฐาน การแจกต้นพันธุ์สมุนไพรหายาก ตลาดนัดความรู้ การแจกต้นกัญชา เมล็ดกัญชา เป็นต้น สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โทร. 0-2149-5649, Facebook Fanpage มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ หรือ Website: https://natherbexpo.dtam.moph.go.th