กรมอนามัย ย้ำ เด็กต่ำกว่า 15 ปี ให้ ‘สวมหน้ากาก – ล้างมือ – เว้นระยะห่าง’ หลังพบ แนวโน้มทำน้อยลง

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผย ผลอนามัยโพล เรื่อง “แนวโน้มพฤติกรรมการปฏิบัติตน ตามมาตรการป้องกันโรค DMH รายกลุ่มอายุ” พบว่า กลุ่มอายุต่ำกว่า 15 ปี มีพฤติกรรมการสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่างน้อยลง พร้อมย้ำพ่อแม่ ผู้ปกครองใส่ใจเด็กให้มีพฤติกรรมที่ดี ด้วยการสวมหน้ากากเมื่อร่วมกิจกรรมกับคนจำนวนมากในสถานที่ปิด หมั่นล้างมือบ่อย ๆ และเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม

นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากข้อมูลการสำรวจอนามัยโพล ของกรมอนามัย เรื่อง “ปฏิบัติตัวอย่างไรเพื่อป้องกันโรคโควิด -19” ระหว่างเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 พบว่า การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคของกลุ่มอายุต่ำกว่า 15 ปี ตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤษภาคม ทั้งการสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ในเดือนมิถุนายน มีแนวโน้มลดลงจากเดือนพฤษภาคม ทั้ง 3 พฤติกรรม โดยการสวมหน้ากาก จากร้อยละ 95.2 ในเดือนพฤษภาคม ลดลงเหลือ ร้อยละ 84.1 ล้างมือ จากร้อยละ 86.1 ลดลงเหลือ ร้อยละ 52.9 และเว้นระยะห่าง จากร้อยละ 80.3 ลดลงเหลือร้อยละ 42

“ทั้งนี้ ขอให้พ่อแม่ ผู้ปกครองใส่ใจเด็กให้มีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี โดยเน้นย้ำให้เด็กสวมหน้ากาก เมื่อร่วมกิจกรรมกับคนจำนวนมากในสถานที่ปิด หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำหรือแอลกอฮอล์ ก่อนกินอาหารและหลังจากเข้าห้องส้วมทุกครั้ง และเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม ร่วมกับการฉีดวัคซีน รวมทั้งควรดูแลสุขภาพเด็กไม่ให้เจ็บป่วยง่าย ด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับเด็ก ดังนี้

1) ให้เด็กกินอาหาร ที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ และปรุงสุกร้อน เน้นกินผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง องุ่น สับปะรด เป็นต้น

2) ดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น

3) พักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อมีฝนตกอากาศจะเย็น ให้ใส่เสื้อผ้าหนา ๆ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น

4) ให้เด็กเคลื่อนไหว ออกแรง และออกกำลังกาย หรือให้ช่วย พ่อแม่ทำงานบ้าน เพื่อสร้างความอบอุ่นและสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

***

กรมอนามัย / 8 กรกฎาคม 2565