กระทรวงสาธารณสุข ประกาศเจตนารมณ์รณรงค์วันไอโอดีนแห่งชาติ ร่วมกับภาคีเครือข่าย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมการปกครอง กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เครือข่ายลดบริโภคเค็ม สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย สมาคมเชฟแห่งประเทศไทย สมาคมร้านอาหารไทยและสตรีทฟู้ด และสมาคมการค้าธุรกิจ ภายใต้แนวคิด “กินเค็มพอดี ต้องมีไอโอดีน” ส่งเสริมให้คนไทยรอบรู้ อยู่อย่างสุขภาพดี
วันที่ 24 มิถุนายน 2565 ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานรณรงค์วันไอโอดีนแห่งชาติ “กินเค็มพอดี ต้องมีไอโอดีน” และประกาศเจตนารมณ์ เนื่องในวันไอโอดีนแห่งชาติ ร่วมกับภาคีเครือข่าย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมการปกครอง กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เครือข่ายลดบริโภคเค็ม สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย สมาคมเชฟแห่งประเทศไทย สมาคมร้านอาหารไทยและสตรีทฟู้ด และสมาคมการค้าธุรกิจ ณ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 25 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันไอโอดีนแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัยได้ดำเนินการ ส่งเสริมป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้รณรงค์ให้ประชาชนมีความรู้ และเกิดความตระหนัก เพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบริโภคที่เหมาะสม ภายใต้แนวคิด “กินเค็มพอดี ต้องมีไอโอดีน” ด้วยการรณรงค์การใช้เกลือ และผลิตภัณฑ์ปรุงรสเสริมไอโอดีนอย่างเพียงพอ บริโภคโซเดียมไม่ควรเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน เทียบเท่ากับเกลือที่ใช้ปรุงอาหารไม่เกิน 1 ช้อนชา หรือน้ำปลาไม่เกิน 4 ช้อนชาต่อวัน
ซึ่งจากผลสำรวจปี 2564 พบว่า คนไทยบริโภคโซเดียมสูงถึง 3,636 มิลลิกรัมต่อวัน สูงกว่าค่าที่องค์การอนามัยโลกแนะนำเกือบ 2 เท่า อีกทั้งยังมีพฤติกรรมการเติมเกลือ น้ำปลา หรือซอสปรุงรสในอาหาร หรือใส่ลงบนอาหารโดยตรงเพื่อเพิ่มรสชาติ ทำให้คนไทยเสี่ยงได้รับปริมาณโซเดียมเกินกว่าความต้องการในแต่ละวัน
“กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องเร่งสื่อสาร สร้างความรอบรู้ให้คนไทยมีความเข้าใจที่ถูกต้อง ในการเลือกบริโภคเกลือ และผลิตภัณฑ์ปรุงรสเสริมไอโอดีนที่เหมาะสม เพื่อให้ได้รับสารไอโอดีนเพียงพอ ตามที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานคำชี้แนะ ในการประชุมคณะกรรมการควบคุมและป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนแห่งชาติครั้งที่ 1/2565 ที่ผ่านมา
พร้อมทั้งขับเคลื่อนให้เกิดชุมชน/หมู่บ้านไอโอดีนครอบคลุมทั่วประเทศ ภายในปี 2570 โดยการขับเคลื่อน ผ่านแพลทฟอร์มไอโอดีน ส่งผลให้ปัจจุบันมีชุมชน/หมู่บ้านไอโอดีน จำนวนทั้งสิ้น 23,911 แห่ง แบ่งเป็นระดับเหรียญทอง จำนวน 8,583 แห่ง ระดับเหรียญเงิน จำนวน 4,819 แห่ง และระดับเหรียญทองแดง จำนวน 10,509 แห่ง” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
ทางด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้ดำเนินงาน ตามแผนปฏิบัติการด้านการควบคุมและป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนแห่งชาติ ปี 2565 – 2570 ซึ่งขณะนี้ สถานการณ์ของโรคขาดสารไอโอดีนในในภาพรวมของประเทศไทยดีขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ มีค่ามัธยฐานไอโอดีนในปัสสาวะภาพรวมของประเทศปี 2564 เท่ากับ 155 ไมโครกรัมต่อลิตร บรรลุตามค่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
สำหรับความครอบคลุมการใช้เกลือเสริมไอโอดีนในครัวเรือนดีขึ้นจากปี 2563 ที่มีการใช้ร้อยละ 80.2 เพิ่มเป็นร้อยละ 84.2 ในปี 2564 แต่ยังไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่กำหนดไว้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ และให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ส่งเสริมให้ประชาชนปรุงประกอบอาหารด้วยผลิตภัณฑ์เสริมไอโอดีน เพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชน
***
กรมอนามัย / 24 มิถุนายน 2565