กรมการพัฒนาชุมชน จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตให้สภากาชาดไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565
วันที่ 1 มิถุนายน 2565 คณะผู้บริหาร ข้าราชการ บุคลากรกรมการพัฒนาชุมชน ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค หน่วยงานราชการภายในศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ตลอดจนภาคีเครือข่าย และประชาชนทั่วไป ร่วมบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เพื่อให้ผู้บริจาค โลหิตได้มีส่วนร่วมในการแสดงความจงรักภักดีถวายเป็นพระราชกุศล และส่งเสริมการทำความดี มีจิตสาธารณะ ครั้งที่ 3 ณ ห้องสัมมนา 3003 ชั้น 3 กรมการพัฒนาชุมชน
นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า “ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะ มุ่งมั่นปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อความผาสุกประเทศชาติและประชาชนชาวไทย ทรงเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยพระราชดำริที่ล้วนสร้างสรรค์ความผาสุกสงบแก่พสกนิกรชาวไทย และความมั่นคงมาสู่ประเทศตลอดมา
เมื่อประชาชนชาวไทยเผชิญกับวิกฤตการณ์ใหญ่ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก วิกฤตครั้งนี้ยังผลให้ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ไม่สามารถจ่ายเลือดให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ ได้อย่างเพียงพอ เนื่องจากผู้บริจาคโลหิต มีจำนวนลดลงทุกแห่งทั่วประเทศ หน่วยงานยกเลิกการจัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาด ส่งผลให้มีปริมาณโลหิตบริจาคลดลงมากถึงร้อยละ 50 ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต่าง ๆ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลใหญ่ๆ หลายแห่งมีความต้องการเลือดสูงมาก ที่ต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัด รวมทั้งผู้ป่วยเด็กโรคเลือดที่ต้องใช้เลือดในปริมาณมากและต่อเนื่องพระองค์ทรงห่วงใยในสุขภาพและพลานามัยของพสกนิกรชาวไทย เป็นอย่างยิ่ง กิจกรรมการรับบริจาคโลหิต ร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยในครั้งนี้ จึงถือเป็นการปฏิบัติบูชาน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล และส่งเสริมการทำความดี มีจิตสาธารณะ
กรมการพัฒนาชุมชน จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกุศลครั้งใหญ่ โดยได้เชิญชวนทั้งบุคลากรกรมการพัฒนาชุมส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค หน่วยงานราชการที่ตั้งอยู่บริเวณ ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ และภาคีเครือข่าย จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี สุพรรณบุรี อ่างทอง สระบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และจังหวัดนครปฐม โดยในครั้งมีผู้เข้าร่วมบริจาคโลหิตจำนวน จำนวน 217 คน มีปริมาณโลหิตที่ได้รับบริจาค จำนวน 166 ยูนิต หรือประมาณ 74,700 ซีซี
อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวต่อว่า “หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมนี้จะเป็นสื่อกลางก่อเกิดความอิ่มเอมใจทั้งผู้ให้ ผู้รับ และสังคม ช่วยเติมเต็มความต้องการของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ซึ่งในแต่ละวันต้องการโลหิตเพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ และเป็นยารักษาโรคที่สำคัญ ซึ่งการ “บริจาคโลหิต” เป็นอีกหนึ่งความดีที่ทำได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่มีใจกุศลที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ขอเชิญชวนร่วมบริจาคโลหิตฝ่าวิกฤติโควิด-19 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อส่งต่อโลหิตที่ปลอดภัยให้กับผู้ป่วย ได้ทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศ อยู่จังหวัดไหน บริจาคจังหวัดนั้น หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย โทร.0 2256 4300 หรือ 1664”