อนุทิน หนุนขยายศักยภาพ “รพ.ด่านขุนทดแห่งใหม่” เพิ่มการเข้าถึงบริการ ลดความแออัดรพ.มหาราชนครราชสีมา

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของโรงพยาบาลด่านขุนทดแห่งใหม่ จังหวัดนครราชสีมา เตรียมขยายบริการด้านการผ่าตัดและคลอดให้ประชาชนได้รับรับบริการใกล้บ้าน ลดความแออัดในรพ.มหาราชนครราชสีมา

วันที่ 8 พฤษภาคม 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร เยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรสาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของโรงพยาบาลด่านขุนทดแห่งใหม่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

 

นายอนุทิน กล่าวว่า โรงพยาบาลด่านขุนทดแห่งใหม่ เป็นการขยายบริการจากแห่งเดิมที่มีพื้นที่จำกัด โดยได้รับจัดสรรที่ดินจากกรมธนารักษ์ จำนวน 124 ไร่ เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 ได้แก่ คลินิกโรคติดต่อไม่เรื้อรัง ทันตกรรม แพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก กายภาพบำบัด งานสุขภาพจิตและยาเสพติด ช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ได้ปรับพื้นที่ชั้น 3 เป็นหอผู้ป่วยโควิด 19 ด้วย ขณะนี้กำลังก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใน 5 ชั้น คาดจะแล้วเสร็จเปิดให้บริการได้ต้นปี 2566 รวมถึงมีแผนขอรับการสนับสนุนก่อสร้างอาคารวินิจฉัยและบำบัดรักษา 4 ชั้น งบประมาณ 209 ล้านบาท เพื่อขยายบริการด้านการผ่าตัดและการคลอด ซึ่งจะช่วยให้ดูแลประชาชนในพื้นที่ รวมถึงอำเภอเทพารักษ์ อำเภอโนนไทย และอำเภอใกล้เคียงได้มากขึ้น ประชาชนได้รับบริการใกล้บ้าน ช่วยลดการส่งต่อและลดความแออัดในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้อย่างดี

“ขอชื่นชมทุกภาคส่วน ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ อสม. และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ที่ร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่านมา ทำให้สามารถป้องกันควบคุมโรคได้อย่างดี โดยเฉพาะการรณรงค์ให้กลุ่มนักเรียน 5-11 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนได้สูงถึงร้อยละ 83.2 ทำให้มีความพร้อมรับการเปิดเรียนอย่างปลอดภัย” นายอนุทินกล่าว

ด้านแพทย์หญิงต้องตา ชลยุทธ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลด่านขุนทด กล่าวว่า โรงพยาบาลด่านขุนทดแห่งใหม่ ได้สร้างในนามของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ซึ่งในอนาคตจะใช้เป็นชื่อโรงพยาบาล ว่า “โรงพยาบาลหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” นอกจากบริการด้านการรักษาพยาบาล ยังได้ปรับพื้นที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการฉีดวัคซีนโควิด 19 ทั้งเข็มปกติและเข็มกระตุ้น โดยในวันนี้เปิดให้บริการวอล์คอินฉีดวัคซีนแก่ประชาชนทั่วไป, เด็กอายุ 12 ปี ขึ้นไป และฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ฝาสีส้มให้แก่เด็กอายุ 5 – 11 ปี ในพื้นที่ อ.ด่านขุนทด เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ลูกหลาน ก่อนเปิดภาคเรียนในวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 นี้