รพ.พระปกเกล้า จันทบุรี เพิ่มศักยภาพบริการรักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยเครื่องฉายรังสี 3 มิติ เครื่องที่ 2

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมการให้บริการศูนย์ความเป็นเลิศด้านมะเร็ง โรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี และเปิดการให้บริการเครื่องฉายรังสี 3 มิติ ประสิทธิภาพสูง เครื่องที่ 2เพิ่มศักยภาพในการให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งในพื้นที่ และจังหวัดใกล้เคียง ลดระยะเวลารอคอยในการรักษา

วันที่ 6 พฤษภาคม 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร ตรวจเยี่ยมและเปิดการให้บริการเครื่องฉายรังสี 3 มิติ (Linac) เครื่องที่ 2 ของศูนย์ความเป็นเลิศด้านมะเร็ง โรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี และกล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญ และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนไทย กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบาย “มะเร็งรักษาทุกที่” เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างรวดเร็วในสถานพยาบาลใกล้บ้าน เพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตและลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

สำหรับศูนย์ความเป็นเลิศด้านมะเร็ง โรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี มีความเชี่ยวชาญระดับสูงในสาขาโรคมะเร็ง ได้แก่ บริการรักษาด้วยเครื่องใส่แร่ การวินิจฉัยและรักษาด้วย nuclear medicine และยังมีห้องปฏิบัติการอณูพันธุศาสตร์ (Genomic lab) แห่งแรกและแห่งเดียวของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในภาคตะวันออก สามารถตรวจสารพันธุกรรมในผู้ป่วยมะเร็ง ทำให้แพทย์สามารถเลือกใช้ยาที่เหมาะสม และช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาได้มากขึ้นตามสิทธิ์การรักษา โดยให้บริการผู้ป่วยโรคมะเร็งในพื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาล ผู้ป่วยในจังหวัดจันทบุรี ตราด สระแก้ว และ 3 อำเภอของจังหวัดระยอง ในส่วนของเครื่องฉายรังสี 3 มิติ เครื่องที่ 2 ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลจำนวน 98 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการให้บริการผู้ป่วยมะเร็งได้มากขึ้น ช่วยลดระยะเวลารอคอยในการรักษาและลดการเดินทางรักษานอกเขต

นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดให้บริการหน่วยรังสีร่วมรักษาในเดือนกรกฏาคม 2565 และในอนาคตมีแผนเปิดให้บริการการฉายรังสีเฉพาะจุด การใส่แร่แบบแทงเข็ม พร้อมทั้งก่อสร้างหอพักสำหรับผู้ป่วยกลืนแร่ และก่อสร้างอาคารมะเร็งหลังที่ 2 เพื่อให้เป็น Medical Hub ทางด้านการรักษาโรคมะเร็งในอนาคต ภายใต้แนวคิด “มะเร็งรักษาหายได้ ถ้าได้รับโอกาสในการรักษา”

****************************************** 6 พฤษภาคม 2565