กิจการเพาะปลูก ประมง ป่าไม้ และเลี้ยงสัตว์ เข้าประกันสังคมได้แล้ว

 นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงประกาศกระทรวงแรงงาน เกี่ยวกับกิจการเพาะปลูก ประมง ป่าไม้ และเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเดิมได้รับการยกเว้นจากสำนักงานประกันสังคม ปัจจุบันเพื่อให้ความคุ้มครองแรงงานในกิจการดังกล่าว กระทรวงแรงงานจึงออกประกาศ เรื่อง ประเภท ขนาดของกิจการ และท้องที่ที่ให้นายจ้างจ่ายเงินสมทบ อัตราเงินสมทบ อัตราเงินฝาก วิธีการประเมินและการเรียกเก็บเงินสมทบ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 19  มีนาคม  2562 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการขยายการคุ้มครองให้มีความครอบคลุมไปถึงกิจการเพาะปลูก ประมง ป่าไม้ และเลี้ยงสัตว์ โดยกำหนดให้นายจ้างที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป ของกิจการดังกล่าวมีหน้าที่จ่ายเงินสมทบภายใน 30 วันนับแต่วันที่นายจ้างมีลูกจ้างทำงานอยู่ในทุกท้องที่ ทั่วราชอาณาจักร

อย่างไรก็ตามยังมีกิจการที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องนำส่งเงินสมทบ แต่ลูกจ้างของกิจการดังกล่าว ยังได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน ได้แก่ กิจการของนายจ้างที่เป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งงานที่ลูกจ้างทำนั้นมิได้มีการประกอบธุรกิจรวมอยู่ด้วย และกิจการของนายจ้างที่ประกอบการค้าเร่ การค้าแผงลอย ซึ่งสำนักงานประกันสังคมจะได้พัฒนาสิทธิประโยชน์เพื่อพัฒนาให้ลูกจ้างกลุ่มยกเว้น ได้มีคุณภาพที่ดี และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป ทั้งนี้ นายจ้างที่ประกอบกิจการเพาะปลูก ประมง ป่าไม้ และเลี้ยงสัตว์ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง / จังหวัด/สาขา/ที่ท่านสะดวก หรือโทร.1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th