ปลัด สธ. วางศิลาฤกษ์ อาคารจิตเวช รพ.สวรรค์ประชารักษ์แห่งใหม่ จ.นครสวรรค์

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข วางศิลาฤกษ์อาคารจิตเวช โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์แห่งใหม่ (เขาเขียว) จังหวัดนครสวรรค์ เพิ่มศักยภาพรองรับผู้ป่วยด้านจิตเวชที่มีอาการรุนแรง จิตเวชเด็ก จิตเวชวัยรุ่น และยาเสพติด ในเครือข่ายเขตสุขภาพที่ 3 ให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และยังคงคุณค่าความเป็นมนุษย์

วันที่ 7 มีนาคม 2565 ที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์แห่งใหม่ (เขาเขียว) จังหวัดนครสวรรค์ นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นางรัจริน วงศ์รจิต นายกสมาคมแม่บ้านสาธารณสุข แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต แพทย์หญิงวิพรรณ สังคหะพงศ์ผู้ตรวจราชการ กระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 3 และคณะ ร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารจิตเวช 2 ชั้น

นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าวว่า โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์แห่งใหม่ ขณะนี้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่าร้อยละ 80 และมีแผนที่จะย้ายโรงพยาบาลฯ ในเดือนสิงหาคม 2565 นี้ จะสามารถรองรับผู้มาใช้บริการได้เฉลี่ย 3,000 คนต่อวัน ครอบคลุมพื้นที่เขตสุขภาพที่ 3 จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิจิตร อุทัยธานี และชัยนาท รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง ช่วยลดการเดินทางไปรักษาที่กรุงเทพฯ ของผู้ป่วยได้

นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า นอกจากการพัฒนาโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ให้มุ่งสู่การเป็นศูนย์ความเป็นเลิศ (Excellence Center) 5 ด้าน ได้แก่ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ภาวะวิกฤตเด็กเล็ก อุบัติเหตุ และการปลูกถ่ายอวัยวะแล้ว ยังเพิ่มศักยภาพการให้บริการครอบคลุมด้านอื่นๆ ด้วย โดยด้านสุขภาพจิตปัจจุบันมีผู้ป่วยมารับบริการเฉลี่ยถึง 130 คนต่อวัน จึงมีแผนสร้างอาคารจิตเวชโดยเฉพาะ เพื่อรองรับผู้ป่วยด้านจิตเวชที่มีอาการรุนแรง จิตเวชเด็ก จิตเวชวัยรุ่น และยาเสพติด ในเครือข่ายเขตสุขภาพที่ 3 และพื้นที่ใกล้เคียง ให้สามารถเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพ สะดวก รวดเร็ว แบบไร้รอยต่อ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และที่สำคัญคือ ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ปลอดภัยและคืนคุณค่าความเป็นมนุษย์ ลดปัญหาผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว รุนแรง ทำให้ชุมชนและสังคมปลอดภัยยิ่งขึ้น

สำหรับอาคารจิตเวช เป็นอาคาร 2 ชั้น ได้รับความเมตตาจากพระเทพมงคลโสภณ (โสภณ อุทัยธรรม)เจ้าคณะภาค 17-18 (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดเสนารามราชวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ นางไพลิน พรปิยะรัศมี บริจาคเงินจำนวน 15 ล้านบาท และประชาชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาคอีก 3 ล้านบาทรวมงบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 18 ล้านบาท ชั้นที่ 1 เป็นห้องตรวจผู้ป่วยนอก ชั้นที่ 2 เป็นหอผู้ป่วยจำนวน24 เตียงใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 1 ปี จะแล้วเสร็จในปี 2566

************************************** 7 มีนาคม 2565