“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 3 มีนาคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 124,187,243 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,819 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง

“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 3 มีนาคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 124,187,243 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,819 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 976.7 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (114.1%)

➡️(3 มีนาคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,819 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 30.2 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 554 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 216 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 976.7 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (95% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 348.8 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 3 มีนาคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 124,187,243โดส

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,819 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ

1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 3 มีนาคม 2565

จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 124,187,243 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น

-เข็มแรก 53,708,957 โดส (81.1% ของประชากร)

-เข็มสอง 49,787,015 โดส (75.2% ของประชากร)

-เข็มสาม 20,691,271 โดส (31.3% ของประชากร)

2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 3 มี.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 124,187,243 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 150,694 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 244,839 โดส/วัน

3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย

วัคซีน Sinovac

– เข็มที่ 1 22,902,443 โดส

– เข็มที่ 2 3,599,298 โดส

– เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน AstraZeneca

– เข็มที่ 1 13,894,399 โดส

– เข็มที่ 2 28,463,406 โดส

– เข็มที่ 3 5,025,007 โดส

วัคซีน Sinopharm

– เข็มที่ 1 7,544,984 โดส

– เข็มที่ 2 7,237,889 โดส

– เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน Pfizer

– เข็มที่ 1 8,615,374 โดส

– เข็มที่ 2 9,639,676 โดส

– เข็มที่ 3 12,469,865 โดส

วัคซีน Moderna

– เข็มที่ 1 751757 โดส

– เข็มที่ 2 844,746 โดส

– เข็มที่ 3 3,196,399 โดส

4. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด

1. ภูเก็ต เข็มที่1 91.8% เข็มที่2 87.4% เข็มที่3 80.1%

2. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 114.1% เข็มที่2 105% เข็มที่3 64.2%

3. นนทบุรี เข็มที่1 82.4% เข็มที่2 78.5% เข็มที่3 58.3%

4. สมุทรปราการ เข็มที่1 92.3% เข็มที่2 81.1% เข็มที่3 55.6%

5. อยุธยา เข็มที่1 74.8% เข็มที่2 71.7% เข็มที่3 41.3%

6. ระยอง เข็มที่1 85.1% เข็มที่2 80.9% เข็มที่3 40.5%

7. ลำพูน เข็มที่1 81.5% เข็มที่2 77.9% เข็มที่3 40.1%

8. ชลบุรี เข็มที่1 83.4% เข็มที่2 79.4% เข็มที่3 36.2%

9. นครปฐม เข็มที่1 77.7% เข็มที่2 76.4% เข็มที่3 34.6%

10. ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 82.4% เข็มที่2 69.8% เข็มที่3 34.2%

10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด

1. ปัตตานี เข็มที่1 57.1% เข็มที่2 45.6% เข็มที่3 6.4%

2. นราธิวาส เข็มที่1 55.7% เข็มที่2 44.9% เข็มที่3 6.4%

3. ยะลา เข็มที่1 63.3% เข็มที่2 52.4% เข็มที่3 8.9%

4. บึงกาฬ เข็มที่1 64.5% เข็มที่2 56.5% เข็มที่3 9.3%

5. หนองบัวลำภู เข็มที่1 63.3% เข็มที่2 58% เข็มที่3 10.5%

6. สตูล เข็มที่1 65.3% เข็มที่2 60.2% เข็มที่3 11.1%

7. สกลนคร เข็มที่1 66.3% เข็มที่2 59.9% เข็มที่3 12.3%

8. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 59% เข็มที่2 49.8% เข็มที่3 12.5%

9. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 67.1% เข็มที่2 60.5% เข็มที่3 12.6%

10. อำนาจเจริญ เข็มที่1 70.6% เข็มที่2 65.2% เข็มที่3 12.7%

5. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 976,792,873 โดส ได้แก่

1. อินโดนีเซีย จำนวน 348,831,944 โดส (69.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm

2. เวียดนาม จำนวน 195,308,572 โดส (81.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm

3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 135,747,294 โดส (56.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca

4. ไทย จำนวน 124,187,243 โดส (81.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm

5. มาเลเซีย จำนวน 67,416,313 โดส (82.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac

6. พม่า จำนวน 44,685,868 โดส (43.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

7. กัมพูชา จำนวน 36,723,843 โดส (86.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac

8. สิงคโปร์ จำนวน 13,572,663 โดส (92%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac

9. ลาว จำนวน 9,292,290 โดส (67.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca

10. บรูไน จำนวน 1,026,843 โดส (95%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม

4. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.60%

2. ยุโรป 10.18%

3. อเมริกาเหนือ 8.61%

4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.17%

5. แอฟริกา 3.80%

6. โอเชียเนีย 0.62%

5. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก

1. จีน จำนวน 3,124.12 ล้านโดส (220.9% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)

2. อินเดีย จำนวน 1,779.43 ล้านโดส (129.1%)

3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 553.82 ล้านโดส (165.2%)

4. บราซิล จำนวน 392.93 ล้านโดส (185.6%)

5. อินโดนีเซีย จำนวน 348.83 ล้านโดส (126.4%)

6. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)

1. คิวบา (308.8%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)

2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (260.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)

3. ชิลี (251%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)

4. เกาหลีใต้ (247.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)

5. มัลดีฟส์ (237.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)

6. กาตาร์ (236.3%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)

7. ฝรั่งเศส (235%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech, Moderna, J&J และ AstraZeneca/Oxford)

8.บรูไน (232.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)

9. บาห์เรน (231.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)

10. สิงคโปร์ (230.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)

 

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)