“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 123,568,670 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,709 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง

“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 123,568,670 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,709 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 974.7 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (113.5%)

➡️(28 กุมภาพันธ์ 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,709 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 25.7 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 552 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 215 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 974.7 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (95% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 344.2 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 123,568,670 โดส

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,709 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ

1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565

จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 123,568,670 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น

-เข็มแรก 53,537,245 โดส (80.9% ของประชากร)

-เข็มสอง 49,718,639 โดส (75.1% ของประชากร)

-เข็มสาม 20,312,786 โดส (30.7% ของประชากร)

2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 28 ก.พ. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 123,568,670 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 106,340 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 263,335 โดส/วัน

3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย

วัคซีน Sinovac

– เข็มที่ 1 22,900,113 โดส

– เข็มที่ 2 3,599,122 โดส

– เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน AstraZeneca

– เข็มที่ 1 13,882,416 โดส

– เข็มที่ 2 28,450,697 โดส

– เข็มที่ 3 4,974,133 โดส

วัคซีน Sinopharm

– เข็มที่ 1 7,542,233 โดส

– เข็มที่ 2 7,235,890 โดส

– เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน Pfizer

– เข็มที่ 1 8,464,169 โดส

– เข็มที่ 2 9,595,196 โดส

– เข็มที่ 3 12,200,038 โดส

วัคซีน Moderna

– เข็มที่ 1 748,314 โดส

– เข็มที่ 2 837,734 โดส

– เข็มที่ 3 3,138,615 โดส

4. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด

1. ภูเก็ต เข็มที่1 91.5% เข็มที่2 87.3% เข็มที่3 79.3%

2. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 113.5% เข็มที่2 104.9% เข็มที่3 62.7%

3. นนทบุรี เข็มที่1 82.3% เข็มที่2 78.5% เข็มที่3 57.2%

4. สมุทรปราการ เข็มที่1 92.1% เข็มที่2 81% เข็มที่3 54.1%

5. อยุธยา เข็มที่1 74.6% เข็มที่2 71.6% เข็มที่3 40.6%

6. ลำพูน เข็มที่1 81.3% เข็มที่2 77.4% เข็มที่3 39.7%

7. ระยอง เข็มที่1 84.8% เข็มที่2 80.8% เข็มที่3 39.5%

8. ชลบุรี เข็มที่1 83.2% เข็มที่2 79.3% เข็มที่3 35.2%

9. นครปฐม เข็มที่1 77.5% เข็มที่2 76.2% เข็มที่3 33.9%

10. ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 82.1% เข็มที่2 69.7% เข็มที่3 33.4%

10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด

1. ปัตตานี เข็มที่1 56.9% เข็มที่2 45.5% เข็มที่3 6.2%

2. นราธิวาส เข็มที่1 55.7% เข็มที่2 44.9% เข็มที่3 6.3%

3. ยะลา เข็มที่1 63.2% เข็มที่2 52.4% เข็มที่3 8.7%

4. บึงกาฬ เข็มที่1 64.3% เข็มที่2 56.4% เข็มที่3 9%

5. หนองบัวลำภู เข็มที่1 63.2% เข็มที่2 57.9% เข็มที่3 10.4%

6. สตูล เข็มที่1 64.8% เข็มที่2 60.1% เข็มที่3 10.9%

7. สกลนคร เข็มที่1 65.7% เข็มที่2 59.4% เข็มที่3 11.8%

8. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 58.7% เข็มที่2 49.5% เข็มที่3 12.1%

9. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 66.8% เข็มที่2 60.4% เข็มที่3 12.3%

10. อำนาจเจริญ เข็มที่1 70.4% เข็มที่2 65.1% เข็มที่3 12.6%

5. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 974,799,833 โดส ได้แก่

1. อินโดนีเซีย จำนวน 344,263,603 โดส (69.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm

2. เวียดนาม จำนวน 193,408,292 โดส (81.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm

3. ฟิลิปปินส์ 141,959,452 โดส (62%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca

4. ไทย จำนวน 123,568,670 โดส (80.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm

5. มาเลเซีย จำนวน 67,089,834 โดส (82.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac

6. พม่า จำนวน 44,506,755 โดส (43.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

7. กัมพูชา จำนวน 36,330,411 โดส (86.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac

8. สิงคโปร์ จำนวน 13,452,417 โดส (92%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac

9. ลาว จำนวน 9,215,226 โดส (66.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca

10. บรูไน จำนวน 1,005,173 โดส (94.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม

4. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.63%

2. ยุโรป 10.15%

3. อเมริกาเหนือ 8.66%

4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.21%

5. แอฟริกา 3.72%

6. โอเชียเนีย 0.63%

5. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก

1. จีน จำนวน 3,119.66 ล้านโดส (220.6% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)

2. อินเดีย จำนวน 1,774.28 ล้านโดส (128.7%)

3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 551.90 ล้านโดส (164.6%)

4. บราซิล จำนวน 391.79 ล้านโดส (185%)

5. อินโดนีเซีย จำนวน 344.26 ล้านโดส (124.8%)

6. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)

1. คิวบา (308.4%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)

2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (260%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)

3. ชิลี (249%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)

4. กาตาร์ (234.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)

5. มัลดีฟส์ (234.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)

6. บาห์เรน (230.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)

7. เกาหลีใต้ (229.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)

8. สิงคโปร์ (228.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)

9. บรูไน (228%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)

10. เดนมาร์ก (226.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)