สพภ. และ สทอภ. ร่วม MOU “การอนุรักษ์และใช้ ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานข้อมูลเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ”

สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ สพภ. จับมือ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ สทอภ. พัฒนาความร่วมมือในการดำเนินงานอนุรักษ์ และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานข้อมูลเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ และพัฒนาช่องทางการสื่อสารในการรับรู้และทำความเข้าใจในโครงการชุมชนไม้มีค่า เพื่อเป็นการตอบรับนโยบายรัฐบาลที่ได้กำหนดเป้าหมายพื้นที่สีเขียวของประเทศที่ร้อยละ ๔๐ ภายในปี พ.ศ. ๒๕๗๙ โดยจำแนกเป้าหมายเป็น พื้นที่ป่าอนุรักษ์ในพื้นที่ของรัฐร้อยละ ๒๕ และพื้นที่นอกพื้นที่อนุรักษ์ร้อยละ ๑๕ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์) ได้มีดำริขยายผลการดำเนินงานอีกร้อยละ ๑๕ รวมเป็นเป้าหมายพื้นที่สีเขียวร้อยละ ๕๕ ของประเทศ

นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานในพิธีฯ กล่าวว่า การส่งเสริมให้ประชาชนปลูกไม้เศรษฐกิจในที่ดินกรรมสิทธิ์หรือที่ดินที่มีสิทธิ์ในการใช้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ที่มั่นคง ช่วยเพิ่มพื้นที่ป่าให้กับประเทศ และทำให้ประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยมีหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการพัฒนา และเมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๑ ที่ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (มหาวิทยาลับราชภัฏเพชรบูรณ์) ได้อนุมัติในหลักการให้จัดทำโครงการชุมชนไม้มีค่า โดยมีหน่วยงานหลักในการบูรณาการการขับเคลื่อนโครงการชุมชนไม้มีค่า ๔ หน่วยงาน ได้แก่ ๑) สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. ๒) กรมป่าไม้ หรือ ปม. ๓) ธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. และ ๔) สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ สพภ.

 

โดยที่ผ่านมา สพภ. ได้ดำเนินกิจกรรมพื้นที่สีเขียวนอกเขตอนุรักษ์ในพื้นที่เอกสารสิทธิ์ หรือกิจกรรมป่า ครอบครัว โดยประเภทพื้นที่ของชุมชนในการดำเนินการจำแนกเป็น ๒ ประเภท ได้แก่ ๑) ประเภทกรรมสิทธิ์ อาทิ ที่ดินโฉนด ๒) ประเภทรัฐอนุญาตให้สิทธิทำกิน อาทิ สปก. คทช. ดำเนินการเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมี เป้าหมายว่าผู้ปลูกต้นไม้ควรจะมีรายได้หลักจากแหล่งอื่นๆ มุ่งเน้นการสร้างแรงจูงใจให้เป็นแหล่งรายได้เสริมจาก การเก็บรักษาต้นไม้ในระยะยาว ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางที่จะท ำให้ผู้ดูแลระบบนิเวศ (ผู้ปลูกต้นไม้) มีช่องทางรายได้ที่ เกิดจากการการดำเนินกิจกรรมพื้นที่สีเขียว สพภ. จึงได้ประสานงานสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ สทอภ. (GISTDA) เพื่อพัฒนาความร่วมมือในการดำเนินงานอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ อย่างยั่งยืนบนพื้นฐานข้อมูลเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ และพัฒนาช่องทางการสื่อสารในการรับรู้และทำความเข้าใจในโครงการชุมชนไม้มีค่า ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนผู้สนใจ ซึ่งทาง GISTDA มีฐานข้อมูล เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ที่จะเป็นการหนุนเสริมโครงการชุมชนไม้มีค่า และกิจกรรมอื่นๆ ตามภารกิจ ของทั้ง ๒ หน่วยงาน โดยบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม สนับสนุนความร่วมมือในการดำเนินงาน “การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานข้อมูลเทคโนโลยี อวกาศและภูมิสารสนเทศ”

ในการนี้ สพภ. หรือ BEDO นำโดย นางจุฬารัตน์ นิรัติศยกุล ผอ.สพภ. และ สทอภ. หรือ GISTDA นำโดย ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.สทอภ. จึงได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการดำเนินงาน “การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน บนฐานข้อมูลเทคโนโลยีอวกาศ และภูมิสารสนเทศ ในวันอังคารที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๓.๓๐ น. ณ ห้อง ประชุม ๓๐๑ อาคารกรมควบคุมมลพิษ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการรับรู้และความเข้าใจในกิจกรรมดำเนินงานของทั้ง ๒ หน่วยงาน ภายใต้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อไป