วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะผู้บริหาร รับมอบวัสดุวิทยาศาสตร์ สำหรับการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ การฉีดวัคซีน และวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อรับมือโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID-19) จากสหรัฐอเมริกา
ภายในงาน นายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย มอบวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อใช้ในการตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยวิธี Real-time RT-PCR การตรวจติดตามการกลายพันธุ์เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมทั้งส่งมอบอุปกรณ์สำหรับการฉีดวัคซีน และชุดป้องกันร่างกายส่วนบุคคล (PPE) รวมมูลค่ากว่า 49.5 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประเทศไทยในการต่อสู้กับโรคโควิด 19 โดยมี ดร.สตีเวน จี. โอลีฟ ผู้อำนวยการองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา สำนักงานภาคพื้นเอเชีย ดร.สตีเฟน มิวส์ ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคโครงการ EpiC ในประเทศไทย พม่า ลาว และนางคิม คยองซัน ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน
กระทั่งปัจจุบัน องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (United States Agency for International Development – USAID) มอบความช่วยเหลือในการรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นมูลค่ากว่า 409 ล้านบาท นอกเหนือจากการสนับสนุนวัคซีนชนิด mRNA ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ จำนวน 2.5 ล้านโดสให้กับรัฐบาลไทยในช่วงที่ผ่านมา
“ความช่วยเหลือของเราสะท้อนถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลไทยในการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อลดผลกระทบของโรคระบาด ซึ่งการส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์จากประชาชนชาวอเมริกันจะช่วยสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ การส่งมอบวัคซีนเพื่อฉีดให้กับประชาชนเพื่อปกป้องคนกลุ่มเสี่ยงและเปราะบางในสังคม จะช่วยประเทศไทยในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ระลอกล่าสุดนี้” นายไมเคิล ฮีธ กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในครั้งนี้ ผ่านองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (United States Agency for International Development – USAID) ซึ่งทำงานร่วมกับองค์การแฟมิลี่ เฮลท์ อินเตอร์เนชั่นแนล (FHI 360) และองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีวัตถุประสงค์ เร่งการเข้าถึงวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ และลดอัตราการเจ็บป่วยและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากการติดเชื้อ การได้รับการสนับสนุนวัสดุวิทยาศาสตร์สำหรับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ติดตามการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นอื่นๆ จะช่วยส่งเสริมระบบสาธารณสุขของประเทศ ในการป้องกัน ตรวจหา และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้มอบความช่วยเหลือให้ประเทศไทยแล้วเป็นมูลค่ากว่า 3.3 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้เกือบ 7 พันล้านบาท เป็นการส่งมอบความช่วยเหลือด้านสาธารณสุข ซึ่งรวมถึงการส่งมอบความช่วยเหลือในครั้งล่าสุดนี้ด้วย
******************* 7 กุมภาพันธ์ 2565