สำนักงานอัยการสูงสุดเปิดให้บริการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนในวันหยุดราชการ

วันที่  5 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.00 น. นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุด เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนในวันหยุดราชการ โดยมีนายประทีป การมิตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายเชาวลิต วงศานรเศรษฐ์ ผู้ตรวจการอัยการ นายชัยพร เกริกกุลธร อธิบดีอัยการ สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงานอัยการสูงสุดและหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมเป็นเกียรติในพิธี ที่ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนและการบังคับคดีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานอัยการภาค 1

นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน กล่าวว่า สำนักงานอัยการสูงสุด มีภารกิจหลักในการอำนวยความยุติธรรม การรักษาผลประโยชน์ของรัฐ และการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ซึ่งหลังจาก ที่ได้เข้ารับตำแหน่งอัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้มีนโยบายในการบริหารงานโดยยึดหลัก “ยุติธรรม – พัฒนา – สามัคคี – มีคุณธรรม” หน่วยงานของสำนักงานอัยการสูงสุดจะต้องดำเนินการด้วยหลักนิติธรรมและธรรมาภิบาล นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ขับเคลื่อนภารกิจ ซึ่งงานด้านการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือ ทางกฎหมายแก่ประชาชน เป็นหนึ่งนโยบายสำคัญอันเป็นภารกิจหลักของสำนักงานอัยการสูงสุด ที่จะทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม จึงได้มอบหมายให้สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) เร่งดำเนินการในเชิงรุก เปิดให้บริการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนในวันหยุดราชการ ในระยะเริ่มแรกจะดำเนินโครงการทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวม 10 สำนักงาน จากนั้นจะได้ประเมินผลการดำเนินงานเพื่อขยายการให้บริการไปยังสำนักงานอื่นๆ ต่อไป เพื่อทำให้สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นที่พึ่งด้านกฎหมายของรัฐและประชาชนอย่างแท้จริง

โครงการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนในวันหยุดราชการ จะเปิดทำการในวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางการเข้าถึงสิทธิในกระบวนการยุติธรรมให้กับประชาชนทั่วไป ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ลูกจ้างบริษัทเอกชน และอื่นๆ ที่ไม่สามารถมาขอใช้บริการในวันเวลาราชการได้ ลดภาระและค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับค่าจ้างเป็นรายวัน หากต้องหยุดงานหรือลางานมาเพื่อติดต่อขอใช้บริการก็อาจจะสูญเสียรายได้ในวันดังกล่าว ซึ่งในระยะแรกจะเปิดให้บริการนำร่องใน 9 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ พิษณุโลก ราชบุรี สุราษฎร์ธานี และสงขลา ซึ่งเป็นจังหวัดที่ประชาชนต้องการใช้บริการเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ สคช. จะขยายระยะเวลาให้บริการสายด่วนปรึกษากฎหมาย 1157 ในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มเติมด้วย ซึ่งได้เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นมา โดยในวันนี้อัยการสูงสุดจะได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการฯ ในพื้นที่ดำเนินการของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อประเมินผลการทำงานในเบื้องต้นและวางแผนแนวทางการปรับปรุงพัฒนาการให้บริการในเชิงรุกต่อไป