วันที่ 28 มกราคม 2565 นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เป็นประธานงานแถลงข่าวงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ “วิถีถิ่น วิถีไทย” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 พร้อมชมการแสดง การแสดงทางวัฒนธรรม 4 ภาคและเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (CPOT : Cultural Product of Thailand) และผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม 4 ภาค โดยมี นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก วัฒนธรรมจังหวัด และเครือข่ายทางวัฒนธรรม เข้าร่วม ณ หอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
นายอิทธิพล กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มุ่งขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG และผลักดัน “Soft Power” ความเป็นไทย เช่น งานฝีมือและหัตถกรรม ศิลปะการแสดง อาหารไทย การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ 5F ตามนโยบายรัฐบาล รวมถึงวธ.มีนโยบายสืบสาน รักษาและต่อยอดงานศิลปวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่ อย่างยั่งยืน จึงมุ่งส่งเสริมและเปิดพื้นที่ให้ศิลปิน ศิลปินพื้นบ้าน ได้มีโอกาสถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมการแสดงและมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท้องถิ่นไปสู่เยาวชนและประชาชน อีกทั้งสนับสนุนการนำสินค้าผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (CPOT) และสินค้า ทางวัฒนธรรมของชุมชนคุณธรรมฯ ในจังหวัดต่างๆ มาสาธิตและจำหน่าย
ดังนั้น วธ.ได้ร่วมมือกับจังหวัด หน่วยงานรัฐ เอกชน เครือข่ายทางวัฒนธรรมจัดงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ “วิถีถิ่น วิถีไทย” ซึ่งเป็นการนำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างงาน สร้างรายได้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดของทุกภาค เนื่องจากผลกระทบจากการ แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งเป็นไปตามวิสัยทัศน์ใหม่ของวธ.คือ “วัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ มีบทบาทนำในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย”และปรับเปลี่ยนภารกิจทั้งการสร้างคุณค่าทางสังคมและมูลค่าทางเศรษฐกิจ เป็นกระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ “วัฒนธรรมทำงาน ทำเงิน ทำดี”
รมว.วธ. กล่าวอีกว่า งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติฯ จัดขึ้น 4 ภาค ได้แก่ ภาคใต้ จัดขึ้นภายใต้ชื่องาน “เสน่ห์เมืองหนังโนรา รังสรรค์ศิลป์ถิ่นใต้” วันที่ 10-13 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ตลาดน้ำทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ประกาศขึ้นทะเบียน “โนรา” ศิลปะการแสดงพื้นบ้าน ซึ่งผูกพันกับชีวิตและเป็นที่นิยมของคนไทยในภาคใต้ เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ภายในงานมีกิจกรรม ได้แก่ การแสดงทางศิลปวัฒนธรรม เช่น โนราทำบท รำมโนราห์ตัวอ่อน หนังตะลุงประยุกต์ หนังตะลุงคน ดิเกร์ฮูลู รองเง็ง ลิเกป่า มหกรรมโขน มหกรรมวัฒนธรรม 4 ภาค เป็นต้น นิทรรศการ เช่น โนรา มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ การเสวนา อาทิ โนรา นาฏลักษณ์เมืองปักษ์ใต้ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม สู่สากล ศิลปะร่วมสมัยสร้างรายได้สู่ชุมชน การสาธิต จำหน่ายอาหารและผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม 14 จังหวัดภาคใต้
นอกจากนี้ มีพิธีไหว้ครูโนราและการรำโนราฉลองในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ณ วัดท่าแค อำเภอเมืองพัทลุง โดยมีครูโนราและนายพรานโนราจากจังหวัดต่างๆ ในภาคใต้นำประกอบพิธีไหว้ครูและการรำโนราโดยตัวแทนโนราจาก 14 จังหวัดภาคใต้ และงาน “เรียนรู้วิถีคนเมืองลุง” วันที่ 11-13 กุมภาพันธ์ 2565 ณ แหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมนาโปแก อำเภอควนขนุน โดยมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากวิทยาลัยนาฏศิลปจากพัทลุง ได้แก่ ความเป็นของมโนราห์และการรำมโนราห์นิทรรศการ อัตลักษณ์วิถีคนเมืองลุง 5 สถานี ได้แก่
1.อัตลักษณ์ถิ่นพัทลุง เช่น ความเป็นมาของมโนราห์และหนังตะลุง การแสดงวิถีชีวิตชาวพัทลุง
2.ปรุงอาหารเป็นยา จัดแสดงและสาธิตอาหารที่มีสรรพคุณทางยามีส่วนผสมของสมุนไพร เช่น ข้าวยำ แกงเลียง
3.รักษ์คุณค่าสมุนไพร จัดแสดงยาสมุนไพรตำรับวัดเขาอ้อ เช่น ลูกประคบ ยาหม่อง สบู่
4.ทำนาเชิงอนุรักษ์ จัดแสดงวิถีนาโบราณและการสีข้าว ด้วยครกสีโบราณ
5. สานศักดิ์ศรีงานศิลป์ จัดแสดงและสาธิตงานหัตถกรรมพื้นบ้าน อาทิ สานกระจูด หัตถกรรมกะลามะพร้าว และงานหัตถศิลป์ เช่น กริชโบราณ การสาธิตผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม เช่น ผลิตภัณฑ์ลูกปัดมโนราห์ เทริดมโนราห์ ผ้าพิมพ์ลายโบราณเมืองชัยบุรี และอาหารพื้นถิ่นคาวหวาน อาทิ แกงน้ำเคยยอดหวาย แกงคั่วกะทิสมรมยอดปรง ยำผักกูด ขนมดอกโดน ขนมโค เป็นต้น
นายอิทธิพล กล่าวว่า ส่วนภาคกลาง จัดงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติฯ ในเดือนเมษายน 2565 ณ จังหวัดตราด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดงานในเดือนพฤษภาคม 2565 ณ จังหวัดกาฬสินธุ์ และภาคเหนือจัดงานในเดือนกรกฎาคม 2565 ณ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งวธ.ขอเชิญชวนประชาชนเที่ยวชมงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติฯ เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิต ประเพณีและศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งสนับสนุนสินค้าผลิตภัณฑ์ CPOT ของชุมชนคุณธรรมฯ แต่ละภาค ทั้งนี้ ได้กำชับทุกแห่งที่จัดงานให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด