นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) แจ้งว่า วงการเพลงลูกทุ่งสุดเศร้า เมือได้รับรายงานว่า นายไวพจน์ สกุลนี ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงลูกทุ่ง) พุทธศักราช ๒๕๔๐ ถึงแก่กรรมเมื่อวันพุธที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๕.๒๔ น. ณ โรงพยาบาลตากสิน ถนนสมเด็จเจ้าพระยา แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร เนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือด สิริรวมอายุ ๗๙ ปี โดยได้ขอ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ในวันศุกร์ที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๗.๐๐ น. และกำหนดสวดพระอภิธรรมศพ ระหว่างวันที่ ๑๔ – ๒๒ มกราคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๙.๐๐ น. ณ วัดวังน้ำเย็น ตำบลวังน้ำเย็น อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งทายาทจะเก็บศพไว้บำเพ็ญกุศล ๕๐ วัน และสวธ.จะดำเนินการขอพระราชทานเพลิงศพต่อไป
อธิบดีสวธ. เปิดเผยอีกว่า นอกจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ในฐานะหน่วยงานที่ดำเนินการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติ เผยแพร่และถ่ายทอดผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน แล้ว ในยามที่ศิลปินฯ เสียชีวิต ยังให้การช่วยเหลือด้านต่าง ๆ นอกจากดำเนินการขอพระราชทานเพลิงศพ แล้ว ยังมอบเงินช่วยเหลือเมื่อเสียชีวิตเพื่อร่วมการบำเพ็ญกุศลศพ จำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท และเงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเพื่อเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิตเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท และขอพระราชทานเพลิงศพให้ ตามระเบียบสวัสดิการของศิลปินแห่งชาติ
ประวัติโดยสังเขป นายไวพจน์ สกุลนี เกิดเมื่อวันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นนักร้องเพลงลูกทุ่งที่มีชื่อเสียงในนาม ไวพจน์ เพชรสุพรรณ โดยเริ่มหัดร้องเพลงอีแซวกับมารดามาตั้งแต่อายุ ๑๒ ปี จากนั้นฝึกหัดร้องลิเกกับคณะลิเกประทีปสามารถร้องเพลงแหล่ได้เป็นอย่างดีเมื่ออายุ ๑๔ ปี ด้วยพรสวรรค์ของน้ำเสียงและการแหล่ที่มีเอกลักษณ์ เฉพาะตัวทำให้ก้าวเข้าสู่วงการเพลงลูกทุ่งด้วยการใช้พื้นฐานเดิมจากเพลงอีแซว เพลงแหล่ และลิเก มาปรับประยุกต์ใช้ในการขับร้องเพลงจนเป็นที่จับใจผู้ฟังเพลงทั่วประเทศต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน มีผลงานบันทึกแผ่นเสียงกว่า ๒,๐๐๐ เพลง
นายไวพจน์ เป็นนักร้องลูกทุ่งที่มีพลังเสียงก้องกังวาน มีผลงานโดดเด่นเป็นพิเศษในการร้องเพลงแหล่ จนได้รับฉายาว่าเป็น “ราชาเพลงแหล่จากเมืองสุพรรณที่มีผลงานบันทึกแผ่นเสียงเพลงแหล่มากที่สุดในประเทศไทย” มีผลงานที่สร้างชื่อเสียง ได้แก่ หนุ่มนารอนาง, สาละวันรำวง, แตงเถาตาย, ให้พี่บวชเสียก่อน นอกจากจะมีความสามารถสูงในการร้องเพลงแล้ว ครูไวพจน์ยังมีความสามารถเฉพาะตัวแต่งเพลงให้ตนเองและลูกศิษย์ขับร้องจนมีชื่อเสียงจำนวนมาก อาทิ เพลงแก้วรอพี่ นักร้องบ้านนอก เป็นต้น ครูไวพจน์ได้รับรางวัลนักร้องดีเด่นจากงานกึ่งศตวรรษลูกทุ่งครั้งที่ ๑ จากเพลงสาละวันลำวง และงานกึ่งศตวรรษลูกทุ่งครั้งที่ ๒ จากเพลงแตงเถาตาย ของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ รางวัลพระพิฆเนศทองคำ เป็นต้น
นายไวพจน์ นับเป็นบุคคลแบบอย่างแก่ศิษยานุศิษย์ในการอุทิศตนให้กับงานด้านศิลปะการแสดงจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต ทั้งการขับร้องเพลงลูกทุ่ง เพลงพื้นบ้าน อีแซว เพลงเรือ เพลงแหล่ ที่ถ่ายทอดให้ผู้ฟังเกิดความสนุกเพลิดเพลิน พร้อมทั้งแฝงแง่คิดและหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะการบรรพชาและการอุปสมบทแทนคุณบิดา มารดา อันแสดงถึงความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาของเหลาพุทธศาสนิกชนที่ปฏิบัติสืบเนื่องกันมาช้านานจนถึงปัจจุบัน นายไวพจน์ สกุลนี จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงลูกทุ่ง) พุทธศักราช ๒๕๔๐