เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีนายเข็มชาติ ดีหนู จิตอาสาอำเภอคุระบุรี ผู้มีใจบุญใจกุศล ชอบช่วยเหลือสังคม ได้นำข้าวไรซ์เบอร์รี่จำนวน 3,000 กิโลกรัม (3ตัน)มูลค่าประมาณ 200,000 บาท มอบให้แก่โรงพยาบาลตะกั่วป่า และกองร้อย ต.ช.ด.425 ตะกั่วป่า เพื่อใช้ในภารกิจและบริการประชาชนกลุ่มเป้าด้านเสริมสร้างสุขภาพและด้านพัฒนามวลชนสัมพันธ์ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ
โดยจุดแรกได้มอบข้าวสารอินทรีย์ไรซ์เบอรี่ (Riceberry)จำนวน 2,000 กิโลกรัม (2ตัน) แก่โรงพยาบาลตะกั่วป่า เพื่อใช้ในภารกิจและบริการผู้ป่วยใน รพ.ตะกั่วป่าและมอบให้บุคลากรทางการแพทย์ ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยมีนายแพทย์สงกรานต์ จันทร์ มุณี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตะกั่วป่า และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตะกั่วป่าร่วมรับมอบ ณ โรงพยาบาลตะกั่วป่า
ต่อมาได้เดินทางไปที่ กองร้อย ตชด.425 ตะกั่วป่าเพื่อมอบข้าวไรซ์เบอร์รี่ จำนวน 1,000 กิโลกรัม(1ตัน) ไว้ใช้ในภารกิจต่างๆและด้านการพัฒนามวลชนในพื้นที่รับผิดชอบ โดยมี พ.ต.ต.นิพนธ์ พลอยขาว ผู้บัญชาการกองร้อย ตชด. 425 ตะกั่วป่าและ จนท.ร่วมรับมอบ
นายเข็มชาติ ดีหนู จิตอาสาอำเภอคุระบุรี กล่าวว่า ได้ใช้รถบรรทุกข้าวไรซ์เบอรี่จำนวน 13 ตัน มาจาก จ.บึงกาฬ เพื่อบริจาคให้กับหน่วยงานและบุคคลอื่นๆใช้ประโยชน์ด้านสุขภาพอนามัยเพราะข้าวชนิดนี้สามารถป้องกันรักษาโรคต่างๆได้หลายโรค และใช้เสริมสร้างสุขภาพอนามัยให้แข็งแรง โดยตั้งใจจะมอบให้ ร.พ.คุระบุรี ร.พ.พังงา และหน่วยงานอื่นๆเพื่อใช้เป็นประโยชน์ในภารกิจและบริการประชาชนต่อไป
ทั้งนี้ข้าวไรซ์เบอร์รี่ (RiceBerry)เป็นข้าวที่เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างข้าวเจ้าหอมนิล และข้าวขาวดอกมะลิ 105 มีลักษณะเป็นข้าวเจ้าสีม่วงเข้ม มีส่วนประกอบเป็นสารแอนโทไซยานิน ซึ่งก็คือสารสีที่สามารถละลายน้ำได้ดีและจัดอยู่ในกลุ่มของสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ยังมีเมล็ดเรียวยาว ผิวมันวาวมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ มีรสชาติหวานกลมกล่อมชวนรับประทาน สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี โดยมีอายุเก็บเกี่ยวประมาณ130 วัน
นอกจากนี้รำข้าวและน้ำมันรำข้าวจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ ยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ดี ซึ่งทางการแพทย์นิยมนำไปใช้ทำผลิตภัณฑ์อาหารโภชนาบำบัดด้วยสารอาหารในข้าวไรซ์ ไรซ์เบอร์รี่มีความสำคัญต่อโครงสร้างและการทำงานของโอเมก้าสมอง ตับและระบบ3 ประสาท ทั้งยังลดระดับคอเลสเตอรอลสังเคราะห์โปรตีนสร้างคอลลาเจนรักษาสิว ป้องกันผมร่วง และกระตุ้นรากผม สร้างและจ่ายพลังงานในร่างกายเป็นส่วนประกอบที่
สำคัญของ ฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงเหล็กและเป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้ออกซิเจนในร่างกายและสมองชะลอความแก่ บำรุงผิวพรรณ ลดอัตราเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดสมองและหัวใจ ทำให้ปอดทำงานดีขึ้นจำเป็นต่อการทำงานของสมอง ระบบประสาท ระบบย่อยอาหาร ป้องกันโรคเหน็บชาชะลอความแก่ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง บำรุงสายตาป้องกันจอประสาทตาเสื่อม บำรุงการไหลเวียนของเลือดในเส้นเลือดฝอยที่หล่อเลี้ยงตาทำลายฤทธิ์ของอนุมูลอิสระ ป้องกัน การเกิดโรคมะเร็งได้แก้ท้องร่วง ช่วยสมานแผลลดระดับคอเรสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ในหลอดเลือด ทำให้เลือดหมุนเวียนไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อย่างเป็นปกติ ลดอัตราเสี่ยงของโรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ฯลฯ
…………………
ภาพ/ข่าว โกอู๋@นักข่าวอาวุโสจังหวัดพังงา/นายพงษ์ศักดิ์ ประทีป รายงาน