นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ฤดูร้อนของประเทศไทยปีนี้คาดว่าจะเริ่มประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์แล้วจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนพฤษภาคม โดยอุณหภูมิบริเวณประเทศไทยตอนบนจะสูงกว่าค่าปกติและสูงกว่าปีที่แล้ว ส่วนปริมาณฝนจะต่ำกว่าค่าปกติร้อยละ 10-30 ยกเว้นในเดือนเมษายนที่มีฝนใกล้เคียงปกติบริเวณภาคเหนือ ซึ่งจากลักษณะอากาศดังกล่าวอาจส่งผลให้เพิ่มความสูญเสียน้ำในระบบและแหล่งน้ำมากขึ้น ทำให้ สทนช.ได้ประสานขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มข้นการควบคุมการจัดสรรน้ำให้เป็นไปตามแผน พร้อมทั้งงดการส่งน้ำนอกแผน การตรวจสอบพื้นที่เพาะปลูกเกินแผน จัดทำทะเบียนเกษตรกรที่เพาะปลูกพืชรอบสอง แจ้งเตือนเกษตรกรงดการปลูกพืชฤดูแล้งและพืชต่อเนื่อง และแจ้งเตือนขอความร่วมมือทุกภาคส่วนก่อนจะดำเนินการตามพระราชบัญญัติน้ำ พ.ศ. 2561
จากการติดตามสถานการณ์พื้นที่ที่มีการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งมากกว่าแผน ปี 2561/62 จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเปรียบเทียบแผนและผลการเพาะปลูกทั้งในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทานรายจังหวัด พบในเขตพื้นที่ชลประทานมีแผนเพาะปลูกข้าว 8.03 ล้านไร่ ผลผลิต 7.69 ล้านไร่ หรือร้อยละ 96 แม้ภาพรวมมีพื้นที่ปลูกไม่เกินแผนแต่กลับพบมีบางพื้นที่เพาะปลูกข้าวเกินแผน 822,082 ไร่ ใน 24 จังหวัด คือ กำแพงเพชร นครสวรรค์ พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี ขอนแก่น อำนาจเจริญ อุบลราชธานี กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี ลพบุรี ชลบุรี ตราด ปราจีนบุรี ระยอง สระแก้ว สุพรรณบุรี และตรัง
ส่วนนอกเขตพื้นที่ชลประทานภาพรวมยังไม่เกินแผน โดยแผนเพาะปลูกข้าว 3.18 ล้านไร่ ผลผลิต 2.02 ล้านไร่ หรือร้อยละ 64 พบเพาะปลูกข้าวเกินแผนบางพื้นที่ 34,142 ไร่ ใน 4 จังหวัด คือ พิษณุโลก บุรีรัมย์ สุรินทร์ และพระนครศรีอยุธยา จึงประสานขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดสรรน้ำทั้งในและนอกเขตขลประทาน วิเคราะห์หาสาเหตุพื้นที่มีการปลูกพืชต่ำกว่าแผนที่ส่งผลให้พื้นที่อื่นที่มีความพร้อมอาจขาดโอกาสใช้น้ำเพื่อการปลูกพืชด้วย
เลขาธิการ สทนช. กล่าวย้ำว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์ลักษณะอากาศคาดหมายปริมาณฝน 3 เดือนล่วงหน้า พบปริมาณฝนรวมของประเทศไทยจะต่ำกว่าค่าปกติในภาคเหนือและภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยปริมาณฝนรวมต่ำกว่าปกติร้อยละ 5 ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปริมาณฝนรวมต่ำกว่าปกติร้อยละ 10
**********************************
ขอบคุณแหล่งที่มา : สำนักงาน กรมประชาสัมพันธ์