นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังร่วมกับรองผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยลงพื้นที่ตรวจความพร้อมโรงสกัดน้ำมันปาล์ม บจ.ปาล์มพัฒนาชายแดนใต้ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นหนึ่งใน 32 รายที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้จำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบให้กฟผ. เพื่อแก้ไขปัญหาราคาผลปาล์มตกต่ำเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2562 ว่าโรงงานมีความพร้อมที่จะขายน้ำมันปาล์มดิบให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตามมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ ที่รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 160,000 ตัน ในราคา 18 บาท/กก. เพื่อนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง โดยบจ.ปาล์มพัฒนาชายแดนใต้ได้เสนอขายน้ำมันปาล์ม จำนวน 8,000 ตัน พบว่าเป็นโรงสกัดที่มีขนาดใหญ่ มีศักยภาพสามารถผลิตน้ำมันปาล์มดิบเพื่อขายให้ กฟผ.ตามที่เสนอขายได้จริง และเตรียมการส่งน้ำมันปาล์มดิบไปยังโรงไฟฟ้าบางปะกงได้ทันทีหลังจากที่ทำสัญญาซื้อขายกับ กฟผ. รวมทั้งพร้อมรับซื้อผลปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนในปริมาณและราคาที่สอดคล้องกับที่ขายน้ำมันปาล์มดิบให้แก่ กฟผ.
โดยมาตรการดังกล่าว คณะอนุกรรมการบริหารและกำกับดูแลมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ ได้กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีดำเนินการเพื่อเป็นแนวทางดำเนอนการอย่างรัดกุมและโปร่งใส ซึ่งตั้งแต่วันที่ 2-25 ม.ค.62 มีผู้ยื่นใบสมัคร รวม 40 ราย เสนอขายรวม 130,000 ตัน มีผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ ที่คณะอนุกรรมการฯ กำหนด ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้มีสิทธิจำหน่าย จำนวน 32 ราย รวม 111,000 ตัน โดยเสนอราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร ตั้งแต่ กก.ละ 3.10-3.25 บาท และขณะนี้ได้ประกาศขยายระยะเวลารับสมัครไปจนถึงวันที่ 15 ก.พ. 62 เพื่อให้ได้ปริมาณน้ำมันปาล์มดิบตามเป้าหมาย 160,000 ตัน
ทั้งนี้ กรมการค้าภายในได้ส่งรายชื่อให้ กฟผ. เพื่อเร่งทำสัญญาซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบแล้วทั้ง 32 รายถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 กฟผ. ได้ทำสัญญาซื้อขายแล้วจำนวน 4 ราย รวม 10,000 ตัน และกฟผ.ได้ทดสอบการเดินเครื่องไปแล้ว เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 ทาง กฟผ.จะเชิญผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้จำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบให้ กฟผ. อีก 28 รายที่เหลือมาลงนามในสัญญาซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบพร้อมกันที่สำนักงาน กฟผ บางกรวย
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า การขับเคลื่อนมาตรการดังกล่าว ทำให้ราคาผลปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรขายได้ ปรับสูงขึ้นจาก กก.ละ 2.40 บาท (พ.ย.61) เป็น กก.ละ 2.95 บาท (1 ก.พ. 62) หาก กฟผ. ทำสัญญาครบทุกราย คาดว่าจะส่งผลให้ราคาผลปาล์มน้ำมันปรับสูงขึ้นมากกว่า 3 บาทต่อกก. และปัจจุบัน สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบมีอยู่ 367,000 ตัน หากถูกนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า 160,000 ตัน ครบถ้วน จะเหลือน้ำมันปาล์มดิบในสต็อกเพียง 207,000 ตัน ต่ำกว่าสต็อกระดับปกติที่ควรอยู่ที่ 250,000 ตัน จึงเชื่อว่าจะทำให้ราคาผลปาล์มปรับตัวสูงขี้นอย่างแน่นอน
————————————————-