กรมการแพทย์แผนไทยฯ แนะ ตำรับยาแผนไทย ชู สมุนไพรรสเปรี้ยว ขม และ เผ็ดร้อน ช่วยแก้อาการเจ็บป่วยโรคยอดฮิต ในช่วงฤดูปลายฝน ต้นหนาว ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำ ตำรับยา ฟ้าทะลายโจร ยาแก้ไอมะขามป้อม ยาปราบชมพูทวีป พร้อมชู พืช ผักสมุนไพรรส เปรี้ยว ขม และ เผ็ดร้อน มาปรุงเป็นอาหาร ช่วยแก้อาการเจ็บป่วยในช่วงฤดูปลายฝนต้นหนาว ตามศาสตร์ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย โดยเฉพาะคนที่เกิดธาตุน้ำ ต้องดูแลสุขภาพร่างกายเป็นพิเศษ เพราะจะเจ็บป่วยได้ง่ายกว่าคนธาตุอื่นๆ ในช่วงฤดูนี้

นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศว่า ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ในวันที่ 2 พฤศจิกายน นี้ ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาล ในฤดูฝน มีธาตุลมเป็นเหตุให้เจ็บป่วย ในฤดูหนาวมีธาตุน้ำเป็นเหตุให้เจ็บป่วย ช่วงนี้ เป็นช่วงเปลี่ยนฤดูฝนเป็นฤดูหนาว ร่างกายมีไอความร้อนค้างอยู่ ตอนหน้าฝน พออากาศเย็นลงอย่างรวดเร็วปรับตัวไม่ทันเกิดภาวะธาตุไฟพิการ ก็เลยเจ็บป่วยได้ง่าย ในคนที่มีภูมิต้านทานดี ก็จะไม่มีอาการใดๆ แต่ในคนที่ภูมิต้านทานไม่ค่อยดี ช่วงนี้ถือว่าเป็นจุดอ่อน จะป่วยได้ง่ายมากในฤดูหนาว ตามหลักการแพทย์แผนไทย มีธาตุน้ำ เป็นที่ตั้งที่แรกของการเกิดของโรคต่างๆ หมายถึงการเจ็บป่วยมักเกิดจากธาตุน้ำก่อน อากาศที่เย็นลงทำให้เสมหะกำเริบ เกิดอาการภูมิแพ้ มีอาการคัดจมูก จาม น้ำมูกไหล ไอ ครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้ต่ำๆ

ดังนั้นเพื่อเป็นการดูแลสุขภาพในเบื้องต้นแพทย์แผนไทยจะเริ่มโดยการใช้อาหารในการปรับสมดุลของร่างกาย โดยใช้รสอาหาร เปรี้ยว ขม เบื่อ เอียน ดังคำโบราณว่า ปลายฝนต้นหนาว ให้กินแกงส้มดอกแค เพื่อปรับสมดุลธาตุในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล เนื่องจากแกงส้ม เครื่องแกง จะมีรสเผ็ดร้อน บำรุงและแก้เกี่ยวกับธาตุลม (ฤดูฝน) การปรุงรสโดยใส่มะขามเปียกให้มีรสเปรี้ยวจะบำรุงและแก้ธาตุน้ำ(ฤดูหนาว) รวมทั้งการใส่ดอกแค โดยดอกแคไม่ต้องเอาก้านเกสรออก (รสขม) จะช่วยแก้ไข้หัวลมได้ การกินแกงส้มดอกแคจะช่วยปรับสมดุลธาตุในร่างกายไม่ให้ธาตุลมลดลงอย่างเฉียบพลัน และเตรียมรองรับธาตุน้ำ ที่มากับฤดูหนาว ร่างกายจะเกิดสมดุลของธาตุในช่วงเปลี่ยนผ่านของสองฤดูนี้

สำหรับ พืชผักสมุนไพรที่ควรรับประทานในช่วงฤดูนี้ ได้แก่ รสเปรี้ยว เช่น มะขามป้อม สรรพคุณ แก้หวัด แก้ไอ ละลายเสมหะ เป็นยาระบาย ชะมวง สรรพคุณ แก้ไข้ ระบายท้อง ขับเสมหะ มะเขือพวง สรรพคุณ ขับเสมหะ แก้ไอ ช่วยย่อยอาหาร ลดความดันโลหิต รสขม เช่น ดอกแค สรรพคุณ แก้ไข้เปลี่ยนฤดู ขี้เหล็ก สรรพคุณ เป็นยาระบาย ช่วยให้นอนหลับสบาย และ สะเดา สรรพคุณ แก้ไข้ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ นอกจากนี้ หากเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ร่างกายอาจได้รับความเย็นมากเกินไป จนรู้สึกหนาว ท่านสามารถรับประทานอาหารที่มีพืชผักสมุนไพรรสเผ็ดร้อนเป็นส่วนผสม เพื่อเสริมสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายได้ เช่น พริกไทย สรรพคุณ ขับเสมหะ แก้ท้องอืดเฟ้อ กระชาย สรรพคุณ ทำให้กระชุ่มกระชวย เป็นยาบำรุงร่างกาย กะเพรา สรรพคุณ แก้ท้องอืดเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง ขับลม แก้คลื่นไส้ กระเทียม สรรพคุณ แก้อาการจุกเสียดแน่นอืดเฟ้อ ผักชี สรรพคุณ ขับเหงื่อ ขับลม ขับเสมหะ แก้ไข้ ไอ หวัด หอมแดง สรรพคุณ แก้ไข้หวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล ขับลม บำรุงธาตุพิการ และ ขิง สรรพคุณ ขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน ขับเสมหะ

ในส่วนตำรับยาสมุนไพร ที่ควรมีติดบ้าน ติดตัวเอาไว้ เพื่อใช้รักษาอาการเจ็บป่วยในช่วงฤดูหนาว คือ ฟ้าทะลายโจร สรรพคุณ รักษาอาการเป็นไข้ ไอ เจ็บคอ ยาแก้ไอมะขามป้อม สรรพคุณ บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ ยาปราบชมพูทวีป สรรพคุณ ช่วยบรรเทาอาการหวัด ภูมิแพ้อากาศ ต้านการอักเสบ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยยาดังกล่าวสามารถสั่งจ่ายโดยแพทย์แผนไทย/แพทย์แผนไทยประยุกต์ ในคลินิกการแพทย์แผนไทยโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ สำหรับการดูแลผิวพรรณ ในช่วงฤดูหนาวก็เป็นสิ่งสำคัญ ถ้ามีอาการผิวหนังแห้งและคัน ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย แนะนำให้ใช้พืชผักสมุนไพรที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ ได้แก่ ว่านหางจระเข้ แตงกวา มะเขือเทศ กล้วย น้ำมันมะพร้าว และ น้ำมันงา เป็นต้น

นายแพทย์ธิติ กล่าวในตอนท้ายว่า ในช่วงที่มีสภาพอากาศเย็นลงพร้อมยังมีฝนตกอยู่ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพ ของตนเองให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงการตากฝน การสวมเสื้อผ้าที่เปียกชื้น รักษาความอบอุ่นของร่างกายด้วยการสวมเสื้อหนาๆ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน พร้อมทั้งนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 6 – 8 ชั่วโมง ก็จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคในช่วงฤดูหนาวนี้

………………………………….. 7 พฤศจิกายน 2564 ………………………………..