วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2564 ที่วัดราชสิทธิรามราชวรวิหาร เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานของกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ประจำปี 2564 โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมพิธี
นายอิทธิพล กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานผ้าพระกฐินให้วธ.ตามที่ขอพระราชทาน เพื่อน้อมนำไปถวายพระสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ณ วัดราชสิทธารามราชวรวิหาร กรุงเทพฯ เพื่อทำนุบำรุงและสืบทอดพระพุทธศาสนา ทั้งนี้ การทอดกฐินเป็นประเพณีสำคัญที่พุทธศาสนิกชนถือปฏิบัติสืบทอดมายาวนานกระทั่งปัจจุบัน ช่วงเวลาในการทอดกฐินมีเพียง 1 เดือน กำหนดหลังวันออกพรรษา 1 วันคือ ระหว่างวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ของทุกปี เป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองและสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ ก่อให้เกิดอานิสงส์ทั้งพระสงฆ์และฆราวาส รวมถึงส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าวัด นำหลักธรรมคำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนาไปใช้ในการดำเนินชีวิต ทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า วัดราชสิทธิรามราชวรวิหารเป็นวัดโบราณเก่าแก่ ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน “พระพุทธจุฬารักษ์” ที่มีพุทธลักษณะงดงาม และมีภาพจิตรกรรมฝาผนังวิจิตรตระการตา เป็นวัดสำคัญที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลต่างๆเสด็จมาประทับเจริญวิปัสสนา และอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ ดังเช่น รัชกาลที่ ๑ ทรงสร้างวัด สถาปนาถาวรวัตถุ และทรงบูรณปฏิสังขรณ์ รัชกาลที่ 2 ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างพระวิหารหลวง รวมถึงพระตำหนักจันทน์เป็นที่ประทับสำหรับรัชกาลที่ 3 ในขณะที่ทรงผนวชและประทับจำพรรษา และตำหนักเก๋งจีน สำหรับรับรองผู้มาเข้าเฝ้า รัชกาลที่ 3 ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้าง“พระสิรจุมภฏเจดีย์” รัชกาลที่ 4 ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้าง “พระสิรจุมภฏเจดีย์” รัชกาลที่ ๙ โปรดให้บูรณะวัดให้สง่างาม เสด็จไปทรงเททองหล่อพระประธานในพระวิหาร พระราชทานนามพระพุทธรูป “พระพุทธสิทธมงคล”พระราชทานพระราชทรัพย์บำรุงพระอารามและพระภิกษุ สามเณร เป็นต้น รวมทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์กรรมฐาน สมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) จัดแสดงหุ่นขึ้ผึ้งสมเด็จพระสังฆราช(สุก)และอดีตเจ้าอาวาสวัดราชสิทธาราม และมีการสอนวิปัสสนากรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ต่อมาวัดได้เจริญรุ่งเรืองขึ้นจนได้รับยกย่องเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างและวัดพัฒนาดีเด่น
นายอิทธิพล กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ศาสนสถาน สถานที่สำคัญและชุมชนย่านเก่าบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงล้วนมีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ตั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์ ทำให้มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ได้แก่ ชุมชนกุฎีจีน วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดซางตาครู้ส มัสยิดคลองบางหลวง วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร มัสยิดต้นสน กุฎีเจริญพาสน์ ชุมชนคลองบางหลวงและบ้านศิลปินคลองบางหลวง รวมทั้งมีร้านขนมโบราณและร้านอาหารอร่อยมากมาย เช่น ขนมฝรั่งกุฎีจีนของชุมชนกุฎีจีน ร้านข้าวมันไก่ลิ่มซัง สาขาแรกต้นตำรับ ร้านเนื้อตุ๋นน้ำแดง 5 ดาว (สูตรน้ำจิ้มพริกไทยดำ) ร้านวรรณผัดไท ร้านตี๋น้อยบ๊ะจ่างฮ่องเต้ ร้านขนมเบื้องวัดอรุณ เป็นต้น ซึ่งวธ.ได้ส่งเสริมให้เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในกรุงเทพฯเพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Economy) รวมทั้งดำเนินนโยบายวธ.ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ 5 F โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและอาหารไทย เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนและชุมชนอย่างยั่งยืน เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนต่อไป
////