กรม สบส. ร่วมตำรวจ บก.ปคบ. อย. และ อภ. แถลงผลตรวจ รพ.เอกชนลักลอบจำหน่ายยา “ฟาวิพิราเวียร์”

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ณ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.) เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรม สบส. พร้อมด้วยผู้บังคับการ และผู้บริหาร บก.ปคบ./สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)/องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ร่วมกันแถลงข่าวผลการตรวจสอบ รพ.เอกชน ย่านบางกะปิ ซึ่งลักลอบนำยา “ฟาวิพิราเวียร์”ที่สั่งซื้อจาก อภ.มาจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อหากำไร เบื้องต้นกรม สบส.ได้แจ้งข้อหาการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 กับผู้ประกอบกิจการและผู้ดำเนินการสถานพยาบาล 3 ข้อหา ได้แก่

1.ไม่จัดให้มีผู้ประกอบวิชาชีพตามจำนวนที่กำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2.มีการเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการของสถานพยาบาลให้แตกต่างไปจากที่ระบุไว้ในใบอนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท

3.โฆษณาเพื่อประโยชน์ทางการค้าของสถานพยาบาลโดยไม่ได้ขออนุมัติจากผู้อนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ส่วนในเรื่องลักลอบจำหน่ายยา อยู่ระหว่างรอผลการสอบสวนของพนักงานสอบสวน

“ขอให้สถานพยาบาลทุกแห่งดำเนินกิจการอย่างมีจริยธรรมและจัดหายาให้ผู้ป่วยให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยจะจัดให้มีการส่งหนังสือเพื่อแจ้งไปยังสถานพบยาบาลทุกแห่งให้ตรวจสอบการจัดหาและการจ่ายยาให้ผู้ป่วยอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์โดยทุจริต ส่วนการดำเนินคดีดังกล่าว กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและมาตรการทางปกครองต่อไป ทั้งนี้หากการกระทำผิดเกี่ยวข้องกับวิชาชีพใดกรม สบส.จะดำเนินการแจ้งไปยังสภาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป หากประชาชนพบเห็นการดำเนินการของสถานพยาบาลที่น่าสงสัยขอให้แจ้งสายด่วนกรม สบส. 1426” นพ.ธเรศฯ กล่าว