สำนักงาน กสม. ประกาศมาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศที่ส่งผลต่อสุขภาพ

วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ นายโสพล จริงจิตร เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็นการเร่งด่วน เพื่อพิจารณาการมีส่วนร่วมในการลดมลพิษจากฝุ่นละอองทางอากาศ เพื่อประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมและสุขภาพของเจ้าหน้าที่ว่า ตามที่มีสถานการณ์ฝุ่นละอองในอากาศขนาดไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลในปริมาณที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ดำเนินการตามมาตรการลดมลพิษทางอากาศโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ โดยอาศัยอำนาจตามระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยการลาของข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๑ ข้อ ๑๐ วรรคสอง ระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยพนักงานราชการสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๑ ข้อ ๕ ประกอบกับมติคณะกรรมการบริหารสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๒  เมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

กำหนดให้ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง และพนักงานจ้างเหมาบริการของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่ได้รับผลกระทบที่เกิดจากภาวะฝุ่นพิษในอากาศสูงดังกล่าว แจ้งความประสงค์ต่อผู้บังคับบัญชาระดับสำนักหรือผู้อำนวยการกลุ่มงานที่ขึ้นตรงต่อเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อขออนุญาตปฏิบัติงานที่บ้านพักระหว่างวันที่ ๔ ถึงวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ โดยต้องรายงานหลักฐานการปฏิบัติงานที่บ้านพักตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ผู้บังคับบัญชากำหนด และแนบรายงานผลการปฏิบัติงานรายวันตามแบบที่สำนักงานคณะกรรมการ
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติกำหนด ยกเว้นผู้บริหารตั้งแต่ผู้อำนวยการกลุ่มงาน หรือเทียบเท่าขึ้นไป รวมทั้งผู้ที่มีความจำเป็นต้องปฏิบัติราชการสำคัญตามที่ได้รับมอบหมาย และผู้ที่มีหน้าที่ให้บริการประชาชน ณ สถานที่ตั้งสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามที่สำนัก/กลุ่มงานเห็นสมควร ให้มาปฏิบัติราชการที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตามปกติ เว้นแต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝุ่นพิษในอากาศสูงดังกล่าวจนไม่อาจมาปฏิบัติงานที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ตามที่ผู้บังคับบัญชาเห็นสมควร ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป

เผยแพร่โดย สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ