ทัพสินค้าดีไซน์จากโครงการนักออกแบบและบ่มเพาะแบรนด์ไทยบุกชั้นวางใน ICONSIAM

“กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ” จับมือ “สยามพิวรรธน์” เดินหน้าผลักดันสินค้านักออกแบบรุ่นใหม่ ผู้ประกอบการแบรนด์ไทย และสินค้าที่ได้รับการบ่มเพาะ เข้าไปจำหน่ายในไอคอนสยาม (ICONSIAM) เผยล่าสุดมีแบรนด์ไทยตบเท้าเข้าไปจำหน่ายได้อีกเพียบ มั่นใจช่วยสร้างโอกาสค้าขาย เปิดตัวออกสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ ระบุสยามพิวรรธน์ยังได้สนับสนุนพื้นที่จัดนิทรรศการให้นักออกแบบไทย ณ ไอคอนสยาม โดยเปิดพื้นที่พิเศษเพื่อนำเสนอเอกลักษณ์ความเป็นไทยสู่เวทีโลกโดยเฉพาะ ในชื่อว่า “ไอคอนคราฟต์ (ICONCRAFT)” ที่รวบรวมงานหัตถศิลป์แบบไทย และงานคราฟต์ร่วมสมัยมานำเสนอ  มากกว่า 250 แบรนด์

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมมือกับบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัดเจ้าของและผู้บริหารศูนย์การค้าระดับโลก อาทิ สยามพารากอน
สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม ซึ่งเป็นอภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคต สัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยได้ร่วมกันในการทำงานเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการของไทย ที่ผ่านการฝึกอบรมและพัฒนาจากโครงการต่างๆ ของกรมฯ เช่น Talent Thai , Designers’ Room , T-Style , IDEA LAB , Road to Shanghai สินค้าแบรนด์ไทยที่ได้เข้าร่วมโครงการ MOC:4I (IDEA LAB , Thai10/10) ซึ่งได้รับการบ่มเพาะแบรนด์ไทยให้เข้มแข็ง รวมถึงสินค้าที่ได้รับรางวัล DEmark ไปจัดแสดงและจัดจำหน่ายในพื้นที่ต่างๆ ของ ICONSIAM

โดย สินค้าจากผู้ประกอบการของไทยได้ถูกนำเข้าไปจำหน่าย ณ ไอคอนสยาม จะกระจายอยู่ในหลากหลายโซน ไม่ว่าจะเป็น ร้านตำรับไทย โซนสุขสยาม, โซน Women Club,Takashimaya และที่สำคัญ คือ โซนไอคอนคราฟต์ (ICONCRAFT) ศูนย์รวมงานหัตถศิลป์ไทยร่วมสมัยหนึ่งเดียวของไทยที่สร้างสรรค์โดยศิลปินและนักออกแบบไทยรุ่นใหม่

คุณปารีสา จาตนิลพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ในฐานะผู้นำด้านการค้าปลีก เจ้าของและผู้บริหารศูนย์การค้าระดับโลก อาทิ สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามพารากอน และไอคอนสยาม โดยมุ่งให้ความสำคัญในฐานะผู้นำความคิดสร้างสรรค์อันล้ำสมัย นำเสนอแนวคิดแปลกใหม่ล้ำยุคในทุกโครงการ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ลูกค้า ควบคู่ไปกับการดำเนินกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคม ภายใต้แนวคิด “คิดต่าง สร้างคุณค่า” ซึ่งหนึ่งในพันธกิจของเรา คือ การสนับสนุน ยกระดับขีดความสามารถและเผยแพร่ชื่อเสียงผลงานของศิลปิน นักออกแบบไทยที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล สามารถสร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้แก่คนไทยและประเทศชาติ  ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของไอคอนสยาม อันเป็นโครงการของสยามพิวรรธน์ ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ที่มีปณิธานที่จะเชิดชูเรื่องราวอันมีคุณค่าและเป็นความภาคภูมิใจจากทุกมิติของความเป็นไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การต่อยอดมรดกทางวัฒนธรรม “งานช่างสิบหมู่” งานหัตถศิลป์ภูมิปัญญาของช่างหลวงไทย ที่ไอคอนสยามได้ผสมผสานกับแนวคิด Innovative Craft สร้างพื้นที่ ICONCRAFT ซึ่งจะเป็นเสมือน Multi-Brand Store ขนาดใหญ่ ที่รวบรวมงานนวัตศิลป์และงานคราฟต์ของคนไทยมานำเสนอในรูปแบบที่อย่างทันสมัยบนพื้นที่กว่า 2,500 ตารางเมตร บน ชั้น 4 และชั้น 5 ของไอคอนสยาม

ICONCRAFT ถูกนำเสนอภายใต้คอนเซ็ปต์ “innovative craft designed for everyday life” เป็นการนำความงามแบบเก่ามาปรับให้เป็นงานสมัยใหม่ เกิดเป็นศูนย์กลางงานนวัตศิลป์และงานคราฟต์ไทยแบบร่วมสมัย โดยสนับสนุนนักออกแบบรุ่นใหม่ เพื่อให้ได้มีโอกาสนำทักษะงานช่างจากอดีตมาพัฒนาต่อยอดให้เกิดเป็นรูปแบบที่น่าสนใจ มีความแปลกใหม่ สามารถเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งจัดสรรพื้นที่โดยได้แรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาจากสาขาวิชาชีพของช่างสิบหมู่ของไทย แบ่งเป็น 7 โซนหลัก ได้แก่ 1.The Smith งานช่างทอง ช่างโลหะต่าง ๆ 2.The Painter งานเพนต์ งานวาดเขียน งานลงรักปิดทอง 3.The Sculptor งานปั้น 4.The Carpenter งานช่างไม้ 5.The Weaver งานช่างทอ 6.The Gastronomer งานเกี่ยวกับอาหาร และ 7.The Therapist งานแพทย์แผนไทยและผลิตภัณฑ์สำหรับบำบัดและดูแลสุขภาพสำหรับตัวอย่างแบรนด์ที่จำหน่ายอยู่ในไอคอนสยาม ได้แก่ SRINLIM / Saprang / THORR LIVING / PICHITA / AYODHAYA / TRIMODE.C / STORY OF SILVER SILK / SUMPHAT GALLERY / LAORR / PATAPIAN / Lamunlamai / Borriboon / Angsa / nuaynardhandcraft / Thaniya  / หยดสังข์ / Truly Hilll / Lucaris / Pasaya / 5ivesis / Panpuri / Satira เป็นต้น และยังมีแบรนด์ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ออกแบบตกแต่งภายในของห้างด้วยผลงานดีไซน์อันมีเอกลักษณ์ อาทิ PIN metal art และ KORAKOT

“กรมฯ มั่นใจว่าความร่วมมือที่เกิดขึ้นนี้ จะช่วยสร้างโอกาสในการจำหน่ายให้กับสินค้าจากผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทย ทั้งการจำหน่ายให้กับผู้บริโภคในประเทศ และต่อยอดจำหน่ายออกสู่ตลาดต่างประเทศ เพราะไอคอนสยาม เป็น ‘The Next Global Destination’ ที่มุ่งเป็นหนึ่งในเดสติเนชั่นจุดหมายปลายทางระดับโลก ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก สินค้าของผู้ประกอบการไทยก็มีโอกาสเปิดตัวได้มากขึ้นเช่นเดียวกัน”น.ส.บรรจงจิตต์กล่าว

น.ส.บรรจงจิตต์กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ไม่เพียงแต่ความร่วมมือในการให้พื้นที่จำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการไทย สยามพิวรรธน์ยังได้ให้การสนับสนุนพื้นที่จัดนิทรรศการ DEmark Show และโครงการ Talent Thai and Designers’ Room ซึ่งเป็นเวทีสำคัญให้นักออกแบบไทยได้แสดงผลงานและความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพสู่มาตรฐานสากล อีกทั้งยังยังร่วมมือกับกรมฯ เปิดร้าน Objects of Desire Store (ODS) นำเสนอและจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์และของตกแต่งบ้านแบรนด์ไทยมากกว่า 130 แบรนด์ บนพื้นที่กว่า 600 ตารางเมตร บริเวณชั้น 3 (Creative Lab) สยามดิสคัฟเวอรี่ โดยสินค้าภายในร้านมาจากโครงการ DEmark, Talent Thai and Designer’s Room และอีกหลายโครงการของกรมฯ โดยแบ่งเป็นมุมสินค้าจากโครงการต้นแบบต่างๆ เช่น ISAN PROJECT โครงการพัฒนาหัตถศิลป์จากภูมิปัญญาอีสาน ที่ได้รับการพัฒนาเรื่องการออกแบบจากดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ให้ดูทันสมัยและสามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมกับ I+D STYLE CAFE อีกหนึ่งโครงการต้นแบบที่ใช้วัตถุดิบเมล็ดกาแฟของไทยนำมาพัฒนาต่อยอดสำหรับธุรกิจคาเฟ่สมัยใหม่ เป็นต้น

“ความร่วมมือนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้สินค้าจากนักออกแบบ ผู้ประกอบการแบรนด์ไทย ในโครงการมีพื้นที่ค้าขายจริง ทั้งยังช่วยขยายฐานลูกค้าของนักออกแบบไทยไปสู่กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเป็นการต่อยอดโครงการตามนโยบายที่สยามพิวรรธน์ให้การสนับสนุนนักออกแบบไทย ผู้ประกอบการแบรนด์ไทย มาโดยตลอด และทางสยามพิวรรธน์ยังมีเป้าหมายที่จะทำให้ทุกอาคารศูนย์การค้าในเครือ อาทิ สยามเซ็นเตอร์ สยามพารากอน สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์ไทยดีไซน์เนอร์อีกด้วย”
น.ส.บรรจงจิตต์กล่าว

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือช่องทางสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169

*************************************

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ