นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากปัญหาสต็อกน้ำมันปาล์มดิบทีมีมากกว่า 350,000 ตัน สูงกว่าระดับสต็อกปกติซึ่งไม่ควรเกิน 250,000 ตัน คณะรัฐมนตรีจึงได้อนุมัติเงินงบประมาณงบกลาง จำนวน 525 ล้านบาท เพื่อให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจำนวน 160,000 ตัน ผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อดึงราคาผลปาล์มของเกษตรกรชาวปาล์มน้ำมันให้สูงขึ้น
กรมการค้าภายใน ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดซื้อ ได้เปิดรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2562 จนถึงวันที่ 25 มกราคม 2562 มีผู้เสนอขายน้ำมันปาล์มดิบ 44 ราย ปริมาณ 126,000 ตัน คณะทำงานกำกับดูแลการจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบให้แก่ กฟผ. ตามมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ ที่ได้รับมอบหมายได้พิจารณาคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนและ มีศักยภาพสามารถจัดส่งน้ำมันปาล์มดิบให้แก่ กฟผ. ได้จำนวน 24 ราย จากจังหวัดชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี กระบี่ ตรัง ปัตตานีและชลบุรี ปริมาณ 71,000 ตัน โดยจะเริ่มมีการส่งมอบตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2562 เป็นต้นไป
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า จะเร่งการรับซื้อน้ำมันปาล์ม 160,000 ตัน ให้เสร็จสิ้นภายในเดือนมกราคม 2562 คาดว่าหลังมีการแทรกแซงราคาน้ำมันปาล์มแล้วสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบจะลดลงเหลือไม่เกิน 200,000 ตัน ซึ่งจะส่งผลให้ช่วยดึงราคาผลปาล์มให้สูงขึ้นไม่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ ราคา กก.ละ 3.20 บาท ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจจำหน่ายน้ำมันปาล์มสามารถยื่นความจำนงค์ได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่แหล่งผลิตทั่วประเทศ