นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ เอกชน สมาคมและผู้ประกอบการด้านภาพยนตร์และวิดีทัศน์ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ระยะที่ 3 (พ.ศ.2560-2564) ในการส่งเสริมและพัฒนาตลาดภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีมติรับทราบ การรายงาน เรื่อง มิติวัฒนธรรมกับการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกตามที่ วธ. เสนอ โดยการพัฒนาเมืองพัทยาเป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับโลก รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือของผู้ประกอบการเพื่อใช้ทุนวัฒนธรรม เอกลักษณ์ของถิ่น ในการผลิตภาพยนตร์ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อการสร้างงาน สร้างรายได้ และการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับจังหวัดทั่วประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า วธ.จึงดำเนินงานร่วมกับ จ.ชลบุรีและเมืองพัทยา จ.นครราชสีมา สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติและสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย โดยจัดโครงการสัมมนาสัญจรส่งเสริมการสร้างภาพยนตร์และละครโทรทัศน์เพื่อส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ในรูปแบบออนไลน์ โดยนำร่อง ๒ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี วันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๔ เวลา ๐๙.๓๐ – ๑๖.๐๐ น.และจังหวัดนครราชสีมา วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๔ เวลา ๐๙.๓๐ – ๑๖.๐๐ น. โดยสามารถติดตามรับชม Live สดกิจกรรมสัมมนาได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ Content Thailand โดยมีวิทยากรประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนสมาคมในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ผู้แทนหน่วยงานรัฐ เอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การสัมมนาในครั้งนี้ จะเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าให้กับท้องถิ่น ทำให้เกิดการเชื่อมต่อเครือข่ายความร่วมมือระหว่างส่วนกลางและส่วนภูมิภาค การมีส่วนร่วมของส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนในการส่งเสริมการสร้างภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ รวมทั้งการเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการภาคเอกชนในพื้นที่กับผู้ผลิตภาพยนตร์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นและผลักดันให้เกิดแหล่งเงินทุนในการผลิตภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ของผู้ประกอบการไทยด้วยกัน รวมทั้งยังส่งเสริมให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับถ่ายทำภาพยนตร์และวีดิทัศน์เข้ามาใช้พื้นที่ต่างๆในจังหวัด นำร่อง ทำให้ประชาชนเล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาพื้นที่ ก่อให้เกิดกระจายรายได้สู่ระดับภูมิภาค จากการท่องเที่ยว ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของท้องถิ่นและประเทศไทย หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) คลี่คลาย
นายอิทธิพล คุณปลื้ม กล่าวอีกว่า นอกจากขับเคลื่อนให้เมืองพัทยาและนครราชสีมา เป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับโลกในครั้งนี้ แล้ว วธ.ยังได้ดำเนินการตามแผนงานวาระปีสากลแห่งเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน พ.ศ.2564 และนโยบายโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ของรัฐบาล ซึ่งได้มุ่งผลักดัน “Soft Power” ความเป็นไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมวัฒนธรรมที่มีศักยภาพของไทยหรือ 5 F ได้แก่ อาหาร (Food) ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film) การออกแบบแฟชั่นไทย (Fashion) ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย (Fighting) และเทศกาลประเพณีไทย (Festival) เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ด้วยการนำทุนทางวัฒนธรรมมาต่อยอดสร้างสรรค์สินค้าและบริการ (Creative Culture) เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและบริการทางวัฒนธรรมให้แก่ชุมชนและประเทศชาติอย่างยั่งยืน