กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาชู “การท่องเที่ยวสีขาวภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG ตามนโยบายรัฐบาล”

ในวันที่ 30 สิงหาคม 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติมีมติเห็นชอบแผนกลยุทธ์เพื่อการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวสีขาวภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG ตามนโยบายรัฐบาล ตอกย้ำทิศทางการพัฒนาการท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน ให้ภาคการท่องเที่ยวมีบทบาทนำในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG แผนกลยุทธ์ฯ ดังกล่าว พัฒนาขึ้นภายใต้กรอบแนวคิดสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ (1) เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งองค์การสหประชาชาติ (2) หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ (3) โมเดลเศรษฐกิจ BCG โดยประกอบด้วย 6 เป้าประสงค์ 10 กลยุทธ์ 10 ตัวชี้วัด และ 43 กิจกรรมสำคัญ โดยมีประเด็นการขับเคลื่อน จำนวน 5 ประเด็น ได้แก่

1. การสร้างความร่วมมือเพื่อการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวสีขาวสู่ความยั่งยืนตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG อย่างเป็นรูปธรรม

2. การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวเพื่อตอบสนองกระแสนิยมการท่องเที่ยวยั่งยืน

3. การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่เกิดจากภาคการท่องเที่ยว

4. การลดการใช้ทรัพยากรและของเหลือทิ้ง

5. การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า “แผนกลยุทธ์ฯ BCG ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาฉบับนี้ ได้วางวิสัยทัศน์ให้ ภาคการท่องเที่ยวมีบทบาทนำในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG การขับเคลื่อนแผนดังกล่าวจะช่วยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย อันจะมีส่วนสำคัญในการฟื้นฟูการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด 19 ให้กลับมาเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและช่วยกระจายรายได้อย่างทั่วถึงไปสู่ภูมิภาคต่อไป”

นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเสริมว่า “แผนกลยุทธ์เพื่อการขับเคลื่อน การท่องเที่ยวสีขาวภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG ได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น ซึ่งจากนี้ต่อไป กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานดังกล่าวในการขับเคลื่อนแผนกลยุทธ์ฉบับนี้ให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายของรัฐบาลและเดินหน้าไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งองค์การสหประชาชาติ (SDGs) ในปี 2030”