ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุ ปาบึก ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จ.สงขลา เมื่อวันที่ 3-6 ม.ค. 62 ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน ต.พังยาง อ.ระโนด จ.สงขลา กว่า 400 ไร่ เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยก่อนหน้านี้ กรมชลประทาน ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ด้วยการพร่องน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดที่ท่วมซ้ำซากในเขตพื้นที่ ต.พังยาง และ ต.ระวะ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 ช่วยให้การระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังทำได้อย่างรวดเร็ว และลดผลกระทบต่อเกษตรกรได้เป็นอย่างมาก ซึ่งจากการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพของกรมชลประทาน ที่เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยใช้เครื่องสูบน้ำระบบ Hydroflow จำนวน 2 เครื่อง และเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่อีก 2 เครื่อง เดินเครื่องสูบน้ำตลอด 20 ชั่วโมง ส่งผลให้ปัจจุบันสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำในเขต อ.ชะอวด อ.เชียรใหญ่ อ.หัวไทร และ อ.เฉลิม- พระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช กรมชลประทานยังคงเดินเครื่องสูบน้ำ จำนวน 31 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำจำนวน 24 เครื่อง พร้อมทั้งเปิด-ปิด ประตูระบายน้ำที่ติดกับทะเลตามจังหวะการขึ้น-ลงของระดับน้ำทะเล เพื่อเพิ่มการระบายน้ำอีกทางหนึ่ง คาดว่าอีก 5-7 วันสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
อย่างไรก็ตามกรมชลประทานยังคงเดินหน้าเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ที่ประสบภัยทุกจุด และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทุกพื้นที่กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายของอาคารและระบบชลประทานต่างๆ เพื่อซ่อมแซมปรับปรุงให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็วที่สุดต่อไป
ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ
กรมชลประทาน