นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส ) กล่าวว่า “ กรณีดังกล่าว สำนักงาน ป.ป.ส. ตรวจสอบแล้ว ยืนยันว่า ชุดตรวจค้นดังกล่าว ไม่ใช่เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. แต่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.โนนสูง จ.นครราชสีมา แอบอ้างใช่บัตรเจ้าพนักงานป.ป.ส.ในการเข้าตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัย และพบว่ามีการเล่นการพนัน ทั้งนี้ สภ.โนนสูงได้มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่ปรากฏเป็นข่าวแล้ว ตามคำสั่ง สถานีตำรวจภูธรโนนสูง ที่ 384/2564 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวน”
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวต่อ “บัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เป็นเอกสารแสดงตัวผู้ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และการใช้อำนาจตามที่ได้มีขอบเขตชัดเจน เฉพาะในภารกิจหน้าที่ด้านการปราบปรามยาเสพติดเท่านั้น ผู้นำไปใช้แอบอ้างโดยไม่ได้เป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. มีความผิดตามกฎหมาย”
โดยการแต่งตั้งเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.จะมีคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุมัติการแต่งตั้งเจ้าพนักงานตามกฏหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นกลไกพิจารณา โดยจะมีการพิจารณากลั่นกรองหลายขั้นตอนเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ที่จะเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม มีข้าราชการหลายสังกัด เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นต้น โดยจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนและดำเนินการตามเงื่อนไขตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ด้านการปราบปรามยาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ในการปฏิบัติหน้าที่ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. จะต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการแสดงบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส ทุกครั้ง โดยการให้ผู้ครอบครองเคหสถานร่วมในการตรวจค้น และเมื่อทำการตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว จะต้องบันทึกผลการตรวจค้นและเหตุในการตรวจค้นเป็นหนังสือให้ไว้แก่ผู้ครอบครองเคหสถานด้วย รวมถึงรายงานให้เลขาธิการ ป.ป.ส. ทราบ ภายในระยะเวลา 15 วัน”และสำนักงาน ป.ป.ส. จะรวบรวมรายงานการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ประจำปีให้แก่รัฐสภา เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่มีการใช้อำนาจเกินขอบเขต ดังนั้น เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. จึงไม่สามารถใช้อำนาจเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือกระทำละเมิดกฎหมายอื่นใดได้
เลขาธิการ ป.ป.ส. ย้ำ “ขอเตือนแอบอ้างเป็นเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145 ผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน อาจเข้าข่ายการกระทำความผิด โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเป็นกรณีที่เป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส จริงแต่ใช้อำนาจในทางมิชอบ หรือเกินขอบเขตตามที่กฎหมายกำหนด สำนักงาน ป.ป.ส.จะดำเนินการยกเลิกการแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการทางวินัยและคดีอาญาต่อไป
หากประชาชนสงสัยว่าบุคคลที่แสดงตัวว่าเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. จริงหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ที่สายด่วน 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง”