กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ชวนคนไทยทำความดีในวันปีใหม่ ลดสร้างขยะเพิ่ม พร้อมแนะสายบุญ สร้างกุศลด้วยการล้างส้วมวัด เพื่อสร้างความสะอาดและสุขอนามัยที่ดีแก่ผู้อื่น
นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า เทศกาลปีใหม่เป็นช่วงเวลาของความสุขและมอบของขวัญแทนความรักและไมตรีจิตที่ดีต่อกัน แต่เมื่อผ่านพ้นการเฉลิมฉลองต้อนรับวันปีใหม่แล้ว สิ่งที่ตามมาคือขยะที่เกิดขึ้นจากงานเลี้ยงและเศษหีบห่อของขวัญจำนวนมาก กรมอนามัยจึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนช่วยกันลดสร้างขยะเพิ่มในช่วงเทศกาลวันปีใหม่ ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้ 1) ใช้ถุงผ้าจับจ่ายเลือกซื้อของขวัญแทนการใช้ถุงพลาสติก 2) เลือกของขวัญที่มีคุณค่าทางจิตใจ มีประโยชน์ ใช้งานได้นาน 3) เลือกของขวัญที่มีหีบห่อน้อยชิ้น 4) นำเสื้อผ้า ของเล่น ตุ๊กตา หรือของใช้ที่เราไม่ได้ใช้แล้วแต่ยังมีสภาพดี ไปบริจาค แบ่งปันเป็นของขวัญให้แก่ผู้อื่นแทนการนำไปทิ้ง 5) งานเลี้ยงสังสรรค์ ลดการใช้จาน แก้วน้ำ ช้อนส้อม ที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง 6) แยกกระป๋องเครื่องดื่ม ขวดแก้ว เศษกระดาษ จากงานเลี้ยง นำส่งขายให้กับร้านรับซื้อวัสดุรีไซเคิล 7) ริบบิ้น โบว์ ถุง หรือกระดาษห่อของขวัญที่มีสภาพดี ควรเก็บไว้ใช้ต่อได้ 8) ต้นไม้ที่จะนำมาประดับในช่วงเทศกาลปีใหม่ ควรเลือกชนิดที่สามารถนำไปปลูกต่อได้ 9) ส่งการ์ดหรือสติ๊กเกอร์ออนไลน์อวยพรให้แก่กันแทนการใช้การ์ดจากกระดาษหรือวัสดุอื่นๆ
“สำหรับการไปทำบุญตามวัดต่างๆ ควรใส่ใจตั้งแต่การเตรียมอาหารและสิ่งของสำหรับถวายพระ เพื่อสุขภาพ ที่ดีของพระและรักษาสิ่งแวดล้อม เริ่มจากการใช้ถุงผ้าจับจ่ายซื้อของทำบุญ แทนการใช้ถุงพลาสติกหลายๆ ใบ ไม่ใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหารถวายพระสงฆ์ เพื่อลดขยะที่ย่อยสลายยากและปลอดภัยต่อสุขภาพ สิ่งของเครื่องใช้ที่จะนำไปถวายพระสงฆ์ต้องมีคุณภาพ ใช้งานได้จริง และเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพระสงฆ์ นอกจากนี้ เรายังสามารถทำบุญด้วยการช่วยกันดูแลรักษาสถานที่สาธารณะ เช่น การล้างส้วมวัด ถือเป็นการทำบุญด้วยการลงแรงหรือเรียกว่าเวยยาวัจจมัย เป็นหนึ่งในบุญกิริยาวัตถุ 10 มีความหมายว่าการทำบุญด้วยการช่วยเหลือกิจส่วนรวมและช่วยเหลือผู้อื่น คือ นอกจากเป็นการดูแลรักษาความสะอาดสมบัติของสาธารณะแล้วยังช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากส้วมที่สกปรกได้อีกด้วย ซึ่งอานิสงส์ของการล้างส้วมในวัดถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับผู้อื่น ป้องกันโรคและสร้างสุขอนามัยที่ดีสำหรับทุกคน” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว
***
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ