ประเทศไทย วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 3,995 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 244,447 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯเพิ่มขึ้น 2,563 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 45 ราย
– เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 35 ราย
– เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้ 1,352 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 66,818 ราย)
เสียชีวิตรวม 1,912 ราย(วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 42 ราย) รักษาหายป่วยแล้ว 198,928 ราย (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 2,253 ราย) รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 43,607 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ (ไม่รวมเรือนจำ) 3,915 ราย มีรายละเอียดดังนี้จากกรุงเทพฯ(1,370) ปริมณฑล (917) จังหวัดอื่น ๆ (1,628)
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 35 รายและเข้า Quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่ตาก(1) กรุงเทพฯ(2) นราธิวาส(1) สระแก้ว(9) และ จันทบุรี(22) มีรายละเอียดดังนี้
– จากประเทศกัมพูชา 31 ราย
– จากประเทศมาเลเซีย 1 ราย
– จากประเทศเมียนมา 1 ราย
– จากประเทศเคนยา 1 ราย
– จากประเทศยูกันดา 1 ราย
สถานการณ์โลกในวันนี้
– ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 181.5 ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 3.9 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 2.17 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ) ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 166 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 91.48)
– สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,586 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 619,343 ราย
– อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 30.2 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 49,851 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 29.2 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 96.6
– ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 76 และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 91 ของโลก
สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
– เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 152,356 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 677 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 3,290 ราย
– มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 728,462 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 5,803 ราย
– กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 46,810 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 523 ราย
– ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 2,100 ราย โดยกำลังรักษาอยู่ 125 ราย
– เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 175 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 74 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรคและศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนาสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม