อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนตรวจเยี่ยมศูนย์เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ( Community Lab Model for quality of life : CLM) “โคก หนอง นา พช.” ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ ต่างขานรับและพอใจโครงการสำคัญของรัฐบาล

วันที่ 25 มิถุนายน 2564 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” ในพื้นที่ บ้านเขือน้ำ ตำบลเขือน้ำ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี โดยมี พ.อ.ภานุวัฒน์ ดีเสมอ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 23 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนานายกัมปนาทจักรวาล วิเวศ ศรีพุทธา พัฒนาการจังหวัดอุดรธานี นายสามารถ หมั่นนอก นายอำเภอบ้านผือ นายเชิดทวี สูงสุมาลย์ พัฒนาการอำเภอบ้านผือ เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขือน้ำ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) และผู้นำชุมชน ร่วมให้การต้อนรับและสรุปผลการดำเนินงาน

โดยตรวจเยี่ยมการขุดปรับพื้นที่ กิจกรรมพัฒนาศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่รูปแบบ “โคก หนอง นา” ศูนย์เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ( Community Lab Model for quality of life : CLM) แปลง นางบัวผัน /นายเรืองศรี บุตรลี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ที่ 1 บ้านเขือน้ำ ตำบลเขือน้ำ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี มีผู้อาศัยในครัวเรือน 5 คน พื้นที่ทำกินทั้งหมด 18 ไร่ สมัครเข้าร่วมโครงการฯ 15 ไร่ ใช้แบบมาตรฐานของกรมการพัฒนาชุมชน สัดส่วนแบบ 1:2ประเภทดินร่วนปนทราย ปริมาณดินขุด 28,000 คิวดิน โดยมีเรืออากาศเอกสุนันท์ชัย ใจมั่น หัวหน้าชุดปฏิบัติงานช่าง ( นพค.23 จ.เลย ) สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาเป็นหัวหน้าชุดและวางแผนในการขุดปรับพื้นที่ ใช้เวลาในการขุดปรับพื้นที่ 32 วัน เสร็จเรียบร้อย 100% โดยได้ดำเนินการส่งมอบพื้นที่ให้สำนักงานพัฒนาชุมชนและครัวเรือนต้นแบบในวันที่ 17 มิถุนายน 2564 ซึ่งหลังจากนี้ก็จะได้ร่วมกันทำกิจกรรมเอามื้อสามัคคีและการทำฐานเรียนรู้ต่างๆ จำนวน 9 ฐาน และจัดทำเป็นศูนย์เรียนรู้ในระดับตำบล

จังหวัดอุดรธานี ได้รับการอนุมัติดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” โดยมีพื้นที่เป้าหมายในจังหวัดฯ ทั้งสิ้น 192 แห่ง เเบ่งเป็นพื้นที่ระดับตำบล (CLM) : 3 แห่ง เเละพื้นที่ระดับครัวเรือน (HLM) : 189 แห่ง และโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง จังหวัดอุดรธานี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กลุ่มเป้าหมาย พื้นที่เรียนรู้ชุมชน จำนวน 68 แห่ง แบ่งเป็น พื้นที่ 1 ไร่ 27 แห่ง และพื้นที่ 3 ไร่ จำนวน 41 แห่ง ในส่วนของอำเภอบ้านผือ มีพื้นที่เป้าหมายในการดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” แยกเป็น แปลง HLM พื้นที่ 3 ไร่ 14 แปลง, พื้นที่ เเละ CLM พื้นที่ 15 ไร่ 1 แปลง และโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมพัฒนาศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่ รูปแบบโคกหนองนาโมเดลอีก 3 แปลง และมีการจ้างงานนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ จำนวน 10 คน

โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนได้รับมอบภาพถ่ายการปรับปรุงพื้นที่ พ.อ.ภานุวัฒน์ ดีเสมอ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 23 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เพื่อมอบให้กับครัวเรือนที่เข้าร่วมโครงการ ปล่อยปลาและปลูกต้นไม้ในพื้นที่ดังกล่าวและได้พบปะกับ นักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) และเจ้าของแปลงในพื้นที่ว่า “โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” นี้ นับว่าเป็นโชคดีของผู้เข้าร่วมโครงการ ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด แนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระชนากาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชบรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 สู่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 โดยท่านพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ท่านนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงมหาดไทย โดยมอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด และหน่วยงานภาคีในระดับพื้นที่ ร่วมกันดำเนินการรับสมัครประชาชนเข้าร่วมโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา

ในวันนี้ก็มาให้กำลังใจที่พี้น้องประชาชนเสียสละพื้นที่ของตนเองเข้าร่วมโครงการฯ โดยทั่วประเทศเป็นงบเงินกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจมีผู้ร่วมโครงการสองหมื่นห้าพันกว่าแปลง ก็ดีใจที่เห็นพี่น้องเจ้าของแปลงมีความชื่นใจ ชอบและขอบคุณรัฐบาลที่เห็นความสำคัญในการสืบสานรักษาและต่อยอดแนวพระราชดำริ ในการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเรื่องทฤษฎีใหม่จัดงบประมาณมาให้ในเรื่องของการฝึกอบรมการปรับปรุงพื้นที่การจัดหาวัสดุทางการเกษตรโดยไม่ต้องใช้เงินส่วนตัว เพื่อแลกกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนเพื่อกลายเป็นศูนย์เรียนรู้ ให้กับประชาชนในตำบล