วันอังคารที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๓๐ น. นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมการใช้งานระบบฐานข้อมูลการตรวจพิสูจน์บุคคลสูญหายและศพนิรนาม ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๘ – ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๑ ณ โรงแรมไมด้า โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท
นางนภา กล่าวว่า กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ในฐานะคณะอนุกรรมการการจัดทำระบบมาตรฐานและฐานข้อมูล การตรวจพิสูจน์บุคคลสูญหายและศพนิรนาม ได้ขับเคลื่อนภารกิจร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในการพัฒนาระบบฐานข้อมูลการตรวจพิสูจน์บุคคลสูญหายและศพนิรนาม ซึ่งระบบดังกล่าวจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการดำเนินงานของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ในการจัดเก็บข้อมูล คนไร้ที่พึ่ง คนนิรนาม ที่เป็นผู้ใช้บริการในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาทักษะชีวิต และศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ที่ไม่สามารถสืบข้อมูลส่วนบุคคลได้ ซึ่งจะใช้เป็นฐานข้อมูลเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ค้นหาข้อมูลคนไร้ที่พึ่ง และคนนิรนามได้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งกลไกที่สำคัญในการให้บริการและคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ให้มีประสิทธิภาพนับเป็นโอกาสอันดีที่ความร่วมมือระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้คนหายได้กลับคืนสู่ครอบครัวชุมชนกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มเป้าหมาย ได้รับการดูแลและพัฒนาภายใต้ความรักความอบอุ่นของครอบครัว ชุมชน ทั้งยังเป็นการลดจำนวนผู้ที่จำเป็นต้องอยู่ในความดูแลของหน่วยงานลงไปได้
นางนภา กล่าวต่อว่า ในปี ๒๕๖๑ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมกับกรมฯ ได้ดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงร่วมกันว่าด้วยความร่วมมือด้านการให้บริการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่ออำนวยความยุติธรรมช่วยเหลือ สังคมและมนุษยธรรม ตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ภายในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งแล้ว จำนวน ๖๖๐ คน จากจำนวนทั้งสิ้น ๔,๗๓๕ ราย ในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ๑๑ แห่ง และเพื่อให้ระบบดังกล่าวเป็นกลไกที่สำคัญในการให้บริการกลุ่มเป้าหมายให้ได้รับการคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จึงได้จัดโครงการอบรมการใช้งานระบบฐานข้อมูล การตรวจพิสูจน์บุคคลสูญหายและศพนิรนามขึ้น โดยการอบรมในวันนี้ ได้รับเกียรติจากผู้แทนสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เป็นวิทยากร ผู้เข้าอบรมประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ๑๑ แห่ง ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาทักษะชีวิต ๓ แห่ง และศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ๙ แห่ง รวมจำนวนทั้งสิ้น ๖๐ คน
กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พร้อมบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายในการพัฒนาเจ้าหน้าที่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ให้มีความรู้ทักษะ ในการใช้งานระบบฐานข้อมูลการตรวจพิสูจน์บุคคลสูญหาย และศพนิรนาม อีกทั้งเป็นกลไกสำคัญในการสานต่อเครือข่ายการทำงาน การให้บริการกลุ่มเป้าหมายให้ได้รับการคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีประสิทธิภาพตลอดไป นางนภา กล่าวในตอนท้าย