ไทย-ลาว ชื่นมื่น ประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการไทย – ลาว ครั้งที่ 3 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว สองฝ่ายพร้อมให้ความร่วมมือทุกด้าน ย้ำความสัมพันธ์มิตรภาพไทย-ลาว เดินหน้าเร่งรัดการพัฒนาเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมไทย-ลาว เพื่อส่งเสริมด้านการค้าไทย-ลาว พร้อมสนับสนุนไทยเป็นประธานอาเซียน ปี 2562 ขณะที่ รมว.แรงงาน เผยรัฐบาลไทย-ลาว เห็นชอบสานต่อความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาแรงงานลาวที่เข้าไปทำงานในไทยโดยผิดกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ยืนยันส่งเสริมพัฒนาฝีมือแรงงาน การจ้างงาน การคุ้มครองแรงงาน และการประกันสังคม
วันที่ 14 ธันวาคม 2561 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย พ.ต.ต.หญิง รมยง สุรกิจบรรหาร รองปลัดกระทรวงแรงงาน และนางเพชรรัตน์ สินอวย อธิบดีกรมการจัดหางาน ร่วมการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (Joint Cabinet Retreat : JCR) ไทย – ลาว ครั้งที่ 3 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนและประธานร่วมฝ่ายไทย นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนและประธานร่วมฝ่าย สปป.ลาว
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย – ลาว ครั้งที่ 3 ว่า การประชุมในครั้งนี้ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว โดยที่ประชุมได้ปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ เช่น ด้านการเมืองและความมั่นคง ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อขยายความสัมพันธ์ มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างสองประเทศเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพ ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนร่วมกัน ด้านการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะสานต่อความร่วมมือตามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่ง สปป.ลาว ว่าด้วยความร่วมมือต่อต้านการค้ามนุษย์ ลงนามไปเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2560 ที่แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว ด้านเศรษฐกิจ เช่น การเชื่อมโยงด้านคมนาคม-ขนส่งอย่างไร้รอยต่อ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้เร่งรัดการพัฒนาเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมไทย-ลาว และเชื่อมต่อกับอนุภูมิภาคและภูมิภาค โดยการดำเนินการตาม ACMECS Master Plan ซึ่งครอบคลุมการพัฒนาถนน ทางรถไฟ สะพานข้ามแม่น้ำโขง ท่าอากาศยาน และการอำนวยความสะดวกด้านการขนส่ง เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน และการคมนาคมของประชาชนทั้งสองประเทศ เป็นต้น
สำหรับความร่วมมือด้านแรงงานนั้น ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะสานต่อความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาแรงงานลาวที่เข้าไปทำงานในไทยโดยผิดกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ทั้งยังยืนยันที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างกันทั้งในด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน การจ้างงาน การคุ้มครองแรงงาน และการประกันสังคม ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศ ตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่ง สปป.ลาว ฉบับลงนามเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2560 นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีของไทยและ สปป.ลาวได้ร่วมแสดงความยินดีที่ปี 2561 เป็นโอกาสครบรอบ 25 ปีของการก่อตั้งสมาคมไทย-ลาวเพื่อมิตรภาพและสามคมลาว-ไทยเพื่อมิตรภาพ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคประชาชน เป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือไทย-ลาวในภาพรวม
รมว.แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลของทั้งสองประเทศเห็นชอบร่วมกันให้มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ร่วมด้านการพัฒนาไทย-ลาว ปี 2562 – 2566 (ระยะ 5 ปี) ทั้งยังเห็นพ้องให้จัดการฉลองครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ในปี 2563 และ สปป.ลาวยังพร้อมสนับสนุนการเป็นประธานอาเซียนของราชอาณาจักรไทยในปี 2562 เพื่อยกระดับความร่วมมือภายในอาเซียนและระหว่างอาเซียนกับภาคีภายนอก อันจะช่วยให้อาเซียน ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน ไปด้วยกัน ซึ่งจะนำผลการประชุมที่ตกลงในครั้งนี้ไปดำเนินการให้เป็นรูปธรรมต่อไป