พร้อมเพิ่มมาตรการเร่งด่วนขอให้สถานประกอบการทุกแห่งประเมินความเสี่ยงตามเกณฑ์ Thai Stop Covid plus หากละเลยการประเมินและพบผู้ติดเชื้อในสถานประกอบการ อาจถูกสั่งปิดตาม พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ
วันที่ 11 พ.ค. 64 เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมอโยธยา ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายประทีป การมิตรี ปลัดจังหวัด นายแพทย์พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นายอำเภอ คณะกรรมการฯ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล สาธารณสุขอำเภอ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ประธานหอการค้าจังหวัด และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้
โดยที่ประชุมได้ติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 ปัจจุบันมียอดผู้ป่วยสะสม 488 ราย รักษาหายแล้ว 201 ราย เสียชีวิต 4 ราย (นับตั้งแต่ 1 เมษายน 2564) รายงานความคืบหน้าการตรวจคัดกรองเชิงรุก (Active case Finding) ในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ รวมถึงให้ อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น ลงพื้นที่เคาะประตูบ้านเก็บข้อมูลผู้ประสงค์ฉีดวัคซีนโควิด19 เชิงรุก ในกลุ่มประชาชนผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป หรือเป็นบุคคลที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 โรค ลงทะเบียน “หมอพร้อม V2” เพื่อจัดลำดับนัดหมายการฉีด รพ.ใกล้บ้านที่มีประวัติการรักษา หรือ รพ.สต. ในพื้นที่ โดยจะเริ่มฉีดตั้งแต่ 7 มิ.ย. นี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาผลการตรวจประเมินความพร้อมของตลาดกลางเพื่อการเกษตร(ตลาดกุ้ง) ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา โดยทีมศูนย์อนามัยที่ 4 สระบุรี ร่วมกับทีมสาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขอำเภอ และ อบจ. เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 64 พบว่า ร้านอาหารทุกร้านมีการปรับปรุงจนผ่านการประเมินตามเกณฑ์ Thai Stop Covid plus จำนวน 11 ข้อ และมาตรการเสริมของจังหวัดอีก 4 ข้อ ดังนั้น จึงมีมติให้เปิดตลาดได้ เริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 12 พ.ค. 64 เป็นต้นไป โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการที่คณะกรรมการโรคติดต่อกำหนดอย่างต่อเนื่อง
นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพนักงานโรงงานนำมาระบาดสู่คนในครอบครัว การเฝ้าระวังในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน จึงได้เพิ่มมาตรการให้สถานประกอบการทุกแห่งได้ประเมินความเสี่ยงของตนเอง ว่าสามารถปฏิบัติการในเชิงป้องกันและลดความเสี่ยงทั้งตามคำสั่งจังหวัด และมาตรการของสาธารณสุขได้ดีหรือไม่ โดยเฉพาะการประเมินตนเองตามเกณฑ์ Thai Stop Covid plus จากการให้ทีมสาธารณสุขจังหวัดได้ตรวจสอบ พบว่าสถานประกอบการมีการประเมินตรวจสอบความเสี่ยงตนเองน้อยมาก จึงขอให้ทุกภาคส่วนที่ดูแลสถานประกอบการ รวมทั้งสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ชมรมบริหารงานบุคคล ตลอดจนชมรมของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทุกโรงงาน ได้ดำเนินการสื่อสารสร้างการรับรู้ให้ทุกโรงงานได้เร่งประเมินตรวจสอบความเสี่ยงของตนเอง
ทั้งนี้ หากพบว่าสถานประกอบการใดละเลยการประเมินตนเองและทำให้พบผู้ติดเชื้อในสถานประกอบการ จังหวัดอาจจำเป็นต้องใช้มาตรการในการสั่งปิดตามกฎหมาย พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ ต่อไป
ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เว็บไซต์ http://pr.prd.go.th/ayutthaya