ในวันที่ 24 มีนาคม 2564 เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของการท่าเรือฯ ในปีงบประมาณ 2564 ว่า ผลจากการสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ปริมาณสินค้าและตู้สินค้าผ่านท่าในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2564 ลดลง แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีวัคซีนป้องกันส่งผลให้ปริมาณสินค้าและตู้สินค้าผ่านท่า มีทิศทางฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
สำหรับทิศทางการดำเนินงานของการท่าเรือฯ ในโอกาสครบรอบ 70 ปี นั้น มีแผนจะยกระดับเป็นท่าเรือมาตรฐานสากล โดยมียุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนในการพัฒนาบริการและโครงสร้างพื้นฐานให้มีมาตรฐานในระดับโลก การท่าเรือฯ จะเดินหน้าเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานท่าเรือของประเทศ ได้แก่ ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือภูมิภาค
โดยจะเร่งพัฒนาโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อยกระดับให้ท่าเรือแหลมฉบังกลายเป็นท่าเรือหลักของภูมิภาค และเป็นเมืองท่าแห่งอนาคต และอีกหนึ่งโครงการ คือ การพัฒนาศูนย์การขนส่งสินค้าทางรถไฟ เพื่อก่อสร้างลานขนถ่ายตู้สินค้าทางรถไฟ รวมทั้งโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ) ที่จะเชื่อมโยงการขนส่งภายในประเทศ และระบบโลจิสติกส์ได้อย่างครบวงจร สำหรับท่าเรือกรุงเทพ ได้มีการพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกเครื่องมือทุ่นแรง รวมถึงกระบวนการทำงานภายในให้สามารถนำไปสู่การยกระดับการพัฒนาให้เป็นองค์กรที่มีสมรรถนะสูง รวมทั้งพัฒนาและยกระดับชีวิตของชุมชนโดยรอบท่าเรือไปพร้อมกัน
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการการท่าเรือ เชื่อมั่นว่า จากนี้ไปการท่าเรือฯ จะเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้ตามวิสัยทัศน์ที่ว่า “มุ่งสู่มาตรฐานท่าเรือชั้นนำระดับโลก ด้วยการให้บริการด้านโลจิสติกส์ที่เป็นเลิศเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2573”
—————-