วันที่ 16 มีนาคม 64 เวลา 09.00 น. ที่วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย พล.ต.คณธัช มากท้วม ผบ.มทบ.18 นายวัชระ กระแสร์ฉัตร์ นายอำเภอบางปะอิน พันเอก(พิเศษ) เพิ่มศักดิ์ ขุนโขลน รอง ผอ.รมน.พระนครศรีอยุธยา นางพิศมัย เลิศอิทธิบาท ประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จิตอาสาพระราชทาน และจิตอาสาในพื้นที่อำเภอบางปะอิน ร่วมพิธีเปิดกิจกรรมจิตอาสาเพื่อเตรียมการรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โดยร่วมใจกันทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบวัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร เพื่อเตรียมการรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสจะทรงเสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีเปิดอาคารวิทยาลัยเสริมทักษะพระภิกษุ สามเณร ณ วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้นำคณะลงเรือ เพื่อตรวจความพร้อมในการเสด็จพระราชดำเนินเส้นทางน้ำรอบบริเวณเกาะบางปะอิน
นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะทรงเสด็จพระราชดำเนินมาประกอบพิธีเปิดอาคารวิทยาลัยเสริมทักษะพระภิกษุ สามเณร ณ วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ในวันที่ 20 มีนาคม ศกนี้ ทางจังหวัดได้ร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 18 พร้อมกับอำเภอบางปะอิน นักเรียน และจิตอาสาภาคประชาชนทั้งหมด ได้ร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสาทำความสะอาดบริเวณวัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร เพื่อเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุดในการรับเสด็จพระองค์ท่าน ในขณะเดียวกันได้ลงเรือกรมเจ้าท่าตรวจตราการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชโดยรอบเกาะบางปะอินที่เป็นที่ตั้งวัด ทั้งนี้เพื่อเก็บผักตบชวาให้เรียบร้อย เนื่องจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเสด็จพระราชดำเนินทางรถยนต์มาที่วังบางปะอิน จากนั้นจะประทับเรือพระที่นั่งข้ามท่าบางปะอินมาที่วัด ฉะนั้นเราต้องเตรียมการเรื่องเส้นทางน้ำให้เรียบร้อย ในวันพรุ่งนี้ (17 มี.ค.) มณฑลทหารบกที่ 18 จะจัดประชุมกองอำนวยการร่วม เพื่อติดตามการเตรียมความพร้อมของภาคส่วนต่างๆ เพื่อจะได้ช่วยแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง และในวันที่ 18 ตอนกลางคืนจะมาตรวจเรื่องความพร้อมของแสงไฟ เนื่องจากช่วงเวลาที่พระองค์เสด็จนั้นคาบเกี่ยวที่มีโอกาสจะถึงค่ำ พร้อมทั้งเตรียมการเรื่องไฟเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มาร่วมรับเสด็จพื้นที่เกาะไม่ใหญ่มากนัก โดยประชาชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะมีโอกาสได้เข้าเฝ้ารับเสด็จทั้งสองพระองค์อย่างใกล้ชิด ในวันนั้นทางจังหวัดมีการจัดตั้งสถานที่เพื่อดูแลเรื่องอาหารให้กับพี่น้องประชาชน และมีการคัดกรองไข้ตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเต็มที่ ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ใน ซึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยมณฑลทหารบกที่ 18 และทุกภาคส่วน พร้อมที่จะถวายการต้อนรับพระองค์และแขกผู้มีเกียรติทุกท่านอย่างเต็มที่และสมบูรณ์แบบที่สุดครับ
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงพระอิสริยยศ ที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา ในปีพุทธศักราช 2555 คณะสงฆ์พร้อมด้วยอุบาสก อุบาสิกา วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระบรมวงศ์บพิตรฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็นองค์อุปถัมภ์โครงการอนุรักษ์และพัฒนาวัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการนี้ทางวัดจึงประสานสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และกรมศิลปากร จัดตั้งสถาบันเสริมทักษะการเรียนรู้สำหรับพระภิกษุ สามเณร เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา โดยกระทรวงศึกษาธิการ ประกาศจัดตั้งเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ.2559 และเปิดการเรียนการสอนครั้งแรก ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 และเปิดการเรียนการสอนครั้งแรก ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 ปัจจุบันเปิดการเรียนการสอน 2 ระดับ คือระดับ ปวช. สาขาช่างเชื่อมโลหะ สาขาช่างยนต์ และสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ ระดับ ปวส. สาขาเทคนิคอุตสาหกรรม และสาขาแอนนิเมชั่น
ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เว็บไซต์ http://pr.prd.go.th/ayutthaya