ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อฯ เพื่อหารือแนวทางการดำเนินงานป้องกันหลังผ่อนคลายมาตรการโรคไวรัสโควิด-19

วันที่ 10 มีนาคม เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมอโยธยา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นางสาวนุชนาถ ประทีปธีรานันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นายแพทย์พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คณะกรรมการฯ หัวหน้าส่วนราชการ ประธานหอการค้าจังหวัดฯ ผู้แทนประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฯ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล สาธารณสุขอำเภอ ตัวแทนภาคเอกชน และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

โดยที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ จำนวน 59 ราย รักษาหายแล้ว 54 ราย ยังรักษาตัวอยู่ 5 ราย รวมถึงรับทราบแผนและขั้นตอนการปฏิบัติในการเปิดให้บริการเยี่ยมญาติ การรับฝากเงิน และการสั่งสินค้าจากร้านสงเคราะห์ให้แก่ผู้ต้องขัง ภายใต้มาตรการผ่อนคลายการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ตามที่เรือนจำ/ทัณฑสถาน กรมราชทัณฑ์และกระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ตลอดจนติดตามผลการดำเนินการหลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการตามคำสั่งจังหวัดฯ อาทิ การดำเนินการของตลาดสด ตลาดนัด การเปิดสถานบริการ สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารต่าง ๆ ว่ามีผลตอบรับจากผู้ประกอบการไปในทิศทางใด เพื่อนำไปสู่การร่วมกันหาแนวทางการป้องกันและแก้ไขข้อขัดขัองต่างๆ ต่อไป

นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า แม้สถานการณ์ของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีแนวโน้มสถานการณ์ที่ดีขึ้น ซึ่งหลังจากการผ่อนคลายมาตรการในช่วงวันหยุดที่ผ่านมามีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคัก

โดยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เน้นย้ำทุกหน่วยให้ดำเนินการตามมาตรการ D M H T T รักษาระยะห่าง สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือด้วยน้ำสะอาดหรือแอลกอฮอล์ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าใช้บริการและเช็คอินผ่านระบบแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” ทุกครั้ง และขอความร่วมมือผู้ประกอบการ/ร้านค้าต่างๆ ดำเนินการจัดสถานที่ให้มีการหมุนเวียนของอากาศอย่างเพียงพอ มีจุดลงทะเบียนการเข้าใช้บริการ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมและสอบสวนโรค ตลอดจนป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง