วันที่ 19 ก.พ.64 เวลา 10.00 น. : นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่่ตรวจเยี่ยมการดำเนินการยกซากรถยนต์และการทำความสะอาดสถานที่จอดซากรถยนต์ ในพื้นที่เขตสวนหลวง เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรที่ติดขัด ลดแหล่งสะสมเชื้อโรค ลดอุปสรรคในการเข้าระงับเหตุกรณีมีเหตุฉุกเฉิน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน โดยมี นายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายสมศักดิ์ ชาติสุขศิริเดช ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักเทศกิจ ผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตสวนหลวง เจ้าหน้าที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง สำนักงานจัดการมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล สำนักสิ่งแวดล้อม และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ดำเนินการ ณ บริเวณซอยพัฒนาการ 38 เขตสวนหลวง
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครโดยสำนักเทศกิจ ได้ดำเนินโครงการ 100 วัน กำจัดซากรถยนต์พร้อมการทำความสะอาดสถานที่จอดซากรถยนต์ เพื่อลดและแก้ไขปัญหาจราจรที่ติดขัด ลดปัญหาแหล่งสะสมเชื้อโรค ลดอุปสรรคในการเข้าระงับเหตุกรณีมีเหตุฉุกเฉิน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน
สำหรับพื้นที่เขตสวนหลวงนั้นมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการเคลื่อนย้ายซากยานยนต์ครั้งแรก เมื่อวันที่ 24 ก.ค.63 ณ บริเวณซอยพระรามเก้า 3 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ไขปัญหาซากยานยนต์อย่างจริงจัง และเป็นรูปธรรมในพื้นที่เขตสวนหลวง ซึ่งนับตั้งแต่วันดังกล่าวจนถึงปัจจุบัน มีสถิติการได้รับแจ้งเบาะแสเรื่องร้องเรียนหรือออกตรวจพื้นที่ในพื้นที่เขตสวนหลวง จำนวน 48 คัน แบ่งเป็น เจ้าของหรือผู้ครอบครองได้เคลื่อนย้ายเอง จำนวน 33 คัน สำนักงานเขตสวนหลวงดำเนินการเคลื่อนย้ายไปแล้ว จำนวน 12 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ จำนวน 3 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 9 คัน (ซอยพัฒนาการ 26) และในวันนี้จะทำการเคลื่อนย้ายยกซากรถที่เหลืออยู่ จำนวน 3 คัน บริเวณซอยพระรามเก้า 41 จำนวน 2 คัน และซอยพัฒนาการ 38 จำนวน 1 คัน โดยจะนำไปจัดเก็บที่สถานที่จัดเก็บซากยานยนต์เขตหนองแขม ซึ่งรถยนต์ดังกล่าวตามกฎหมายได้ระบุให้มีการสืบหาเจ้าของซากยานยนต์ก่อน โดยจะทำการติดประกาศ 15 วัน หากไม่พบเจ้าของกรุงเทพมหานครจะนำไปจัดเก็บรักษาไว้ ถ้ามีเจ้าของมาติดต่อจะดำเนินการเปรียบเทียบปรับ หากไม่มีเจ้าของมาติดต่อจะจัดเก็บซากรถยนต์ไว้ประมาณ 6 เดือน และเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการเขตในการขายทอดตลาดซากรถยนต์ดังกล่าวต่อไป
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สำหรับสถิติจำนวนซากรถยนต์ทั่วกรุงเทพมหานครที่แต่ละสำนักงานเขตสำรวจ รวมทั้งที่ประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามา (ข้อมูล ณ วันที่ 18 ก.พ.64) มีจำนวนทั้งสิ้น 865 คัน ปัจจุบันเคลื่อนย้ายแล้วโดยนับรวมของเขตสวนหลวงในวันนี้ รวมทั้งสิ้นจำนวน 849 คัน แบ่งเป็นเจ้าของเคลื่อนย้ายเอง จำนวน 770 คัน และสำนักงานเขตเป็นผู้ดำเนินการเคลื่อนย้าย จำนวน 79 คัน ทำให้ขณะนี้คงเหลือซากรถยนต์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครอีกจำนวน 16 คัน ซึ่งกรุงเทพมหานครจะทยอยเคลื่อนย้ายในส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายภายในเดือน ก.พ. 64 ต่อไป
ทั้งนี้กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือประชาชนหากพบเห็นการจอดทิ้งซากรถยนต์ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ ฝ่ายเทศกิจทุกสำนักงานเขต และ http://gid.bangkok.go.th/reward/default.php หากเบาะแสดังกล่าวนำไปสู่การจับปรับ ผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งของค่าปรับตามระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแบ่งค่าปรับที่ได้จากการเปรียบเทียบให้แก่ผู้แจ้งความนำจับตามกฎหมายว่าด้วยการรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 18 ที่กำหนดห้ามมิให้ผู้ใดทิ้ง วาง หรือกองซากยานยนต์บนถนนหรือสถานที่สาธารณะ โดยบทกำหนดโทษ ตามมาตรา 56 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท