วันที่ 18 ก.พ.64 นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังตรวจการจัดเก็บซากยานยนต์ (ซากรถยนต์) ที่จอดทิ้งในที่หรือทางสาธารณะในพื้นที่เขตบางเขน ว่า วันนี้กรุงเทพมหานครโดยสำนักเทศกิจ สำนักงานเขตบางเขน กองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง กทม. สำนักสิ่งแวดล้อม ร่วมกันเคลื่อนย้ายซากรถยนต์ภายในหมู่บ้านฝนทองนิเวศน์ ถนนพหลโยธิน จำนวน 5 คัน และบริเวณซอยรามอินทรา 39 แยก 8 จำนวน 1 คัน รวม 6 คัน ซึ่งเขตฯ ได้ตรวจสอบติดตามเจ้าของรถและตรวจสอบผู้ครอบครองรถจากฐานข้อมูลกรมการขนส่งทางบกแล้วไม่พบเจ้าของ และได้ทำการประสานกับ สน.บางเขน เพื่อขอรายละเอียดว่าเป็นรถที่เกี่ยวข้องในคดีหรือไม่ ซึ่งได้รับคำยืนยันว่าไม่ใช่รถในคดี เขตฯ จึงติดประกาศสำนักงานเขตบางเขนให้เคลื่อนย้ายซากรถยนต์ภายใน 15 วัน
ซึ่งบัดนี้เกินกำหนดแล้ว จึงได้ประสานรถยกจากกองโรงงานช่างกล เพื่อนำซากรถยนต์ไปเก็บ ณ สถานที่เก็บของกลาง เขตหนองแขม เป็นการชั่วคราว เพื่อรอเจ้าของมารับคืนหรือขายทอดตลาดแล้วแต่กรณี พร้อมทั้งลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางเขนเพื่อเป็นหลักฐาน สำหรับจำนวนซากรถที่แต่ละสำนักงานเขตสำรวจ รวมทั้งที่ประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามา (ข้อมูล ณ วันที่ 17 ก.พ.64) มีจำนวนรวม 865 คัน ปัจจุบันเคลื่อนย้ายแล้วโดยนับรวมของเขตบางเขนวันนี้ จำนวน 843 คัน แบ่งเป็นเจ้าของเคลื่อนย้ายเอง จำนวน 767 คัน และเขตเคลื่อนย้าย จำนวน 76 คัน คงเหลืออีก 22 คัน ซึ่งกรุงเทพมหานครจะทยอยเคลื่อนย้ายในส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายภายในเดือน ก.พ. 64 ต่อไป
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือประชาชนหากพบเห็นการจอดทิ้งซากรถยนต์ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ ฝ่ายเทศกิจทุกสำนักงานเขต หากเบาะแสดังกล่าวนำไปสู่การจับปรับ ผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งของค่าปรับตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 18 ที่กำหนดห้ามมิให้ผู้ใดทิ้ง วาง หรือกองซากยานยนต์บนถนนหรือสถานที่สาธารณะ
โดยบทกำหนดโทษ ตามมาตรา 56 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ซึ่งตามกฎหมายได้ระบุให้มีการสืบหาเจ้าของซากรถยนต์ก่อน โดยจะทำการติดประกาศ 15 วัน หากไม่พบเจ้าของ กรุงเทพมหานครจะนำไปเก็บรักษาไว้ในสถานที่ที่สำนักงานเขตจัดไว้ และเมื่อมีเจ้าของมาติดต่อรับซากรถยนต์คืนจะดำเนินการเปรียบเทียบปรับ หากไม่มีเจ้าของมาติดต่อขอรับคืนจะจัดเก็บซากรถยนต์ไว้ประมาณ 6 เดือน และเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการเขตในการขายทอดตลาดซากรถยนต์ดังกล่าวต่อไป