เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้ผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19 วันที่ 17 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมอโยธยา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดพระนครศรีอยุธยา(ศปก.จ.อย)
โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปลัดจังหวัด รอง ผอ.รมน.จ.อย. นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คณะกรรมการฯ หน่วยงานภาคเอกชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามผลการดำเนินงานในการป้องกันและควบคุมโรค รวมถึงการรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของพื้นที่และภาคเอกชน ผู้ประกอบการ และร่วมกันแก้ไขปัญหาอุปสรรคให้ได้รับช่วยเหลือเยียวยาบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว
โดยที่ประชุมได้ติดตามสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 25 ปี เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเนื่องจากพักอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกับผู้ติดเชื้อ รายที่ 46 ที่หมู่ 1 ตำบลบ้านแค อำเภอผักไห่ อาชีพพนักงานบริษัทในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค อำเภอบางปะอิน เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อได้แจ้งเหตุให้บริษัททราบพร้อมค้นหาผู้สัมผัส โดยบริษัทได้ดำเนินการทำความสะอาดพื้นที่และบริเวณโดยรอบตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ทำให้วันนี้มีผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 47 ราย รักษาหายแล้ว 43 ราย ยังรักษาอยู่ 4 ราย ทั้งนี้ จังหวัดฯ ยังคงตรวจค้นหาเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันและสกัดกั้นไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้น
สำหรับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้ผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19 โครงการเราชนะ ในส่วนของธนาคารกรุงไทยสาขาอยุธยา สำหรับกลุ่มคนที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เนื่องจากไม่มีอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟน เปิดรับลงทะเบียนด้วย “บัตรประชาชน” ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.- 5 มี.ค.64 ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา พร้อมอำนวยความสะดวกรวดเร็วโดยการจัดเจ้าหน้าที่จากทุกสาขามาให้บริการพิเศษ ณ จุดบริการครบวงจร (One Stop Service) ที่โรงยิมสนามกีฬาจังหวัด
พระนครศรีอยุธยา และตลาดวังน้อย ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 25 ก.พ. 64 และ ครม.มีมติอนุมัติ โครงการ “ม33 เรารักกัน” สำหรับผู้ประกันตน มาตรา 33 เพื่อรับเงินเยียวยา 4,000 บาท โดยเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนผ่าน www. ม33เรารักกัน .com ในวันที่ 21 ก.พ. – 7 มี.ค. 64 จากนั้นจะตรวจสอบข้อมูล และให้ผู้ประกันตน ยืนยันตัวตน ระหว่างวันที่ 15 – 21 มี.ค. 64 และจะเริ่มโอนเงินเข้าแอพฯเป๋าตัง สัปดาห์ละ 1,000 บาท (โอนทุกวันจันทร์) ตั้งแต่ 22 มี.ค. – 12 เม.ย. 64 ทั้งนี้ จะใช้จ่ายเงินได้ตั้งแต่ 22 มี.ค. – 31 พ.ค. 64 คุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิ ต้องเป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 เป็นผู้มีสัญชาติไทย และมีเงินฝากในบัญชีไม่เกิน 5 แสนบาท ณ 31 ธันวาคม 2563 ไม่เป็นแรงงานต่างด้าว ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
นอกจากนี้ ยังได้เร่งรัดการดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาสถานประกอบการที่หยุดกิจการชั่วคราว การช่วยเหลือกลุ่มคนเรือให้สามารถลงทะเบียนร่วมโครงการเราชนะได้ ทั้งนี้ ได้ปิดการดำเนินการด่านตรวจ/จุดคัดกรองระดับจังหวัดแล้ว ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์ของโรคได้คลี่คลายแล้ว รวมถึงรับทราบว่าขณะเกษตรกรผู้เลี้ยง สามารถดูแลตนเองได้ จึงขอหยุดการจำหน่ายบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดฯ และตลาดเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ทั้งสองจุดตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สถานการณ์โรคไวรัสโควิด 19 ของจังหวัดฯ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย เป็นผู้พักอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกับผู้ติดเชื้อ รายที่ 46 ซึ่งเชื่อมโยงมาจากตลาดพรพัฒน์ จ.ปทุมธานี เกิดจากพ่อค้าแม่ค้าที่เดินทางไปค้าขายที่ตลาดดังกล่าวไม่มีระบบการตรวจค้นหาเชื้อและไม่มีการบันทึกรายชื่อผู้ค้า จึงขอให้นายอำเภอทั้ง 16 อำเภอ ช่วยสืบเสาะหาให้ผู้เดินทางไปตลาดในจังหวัดปทุมธานีมาตรวจหาเชื้อโดยด่วน โดยผ่านกลไก กำนันผู้ใหญ่บ้าน อสม. หากพบผู้เดินทางไปในพื้นที่ดังกล่าวแล้วไม่ยอมมาตรวจ สามารถดำเนินการคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อได้
ทั้งนี้ ยังคงให้ทุกอำเภอตรวจติดตามกิจการต่าง ๆ ที่ให้ปิดและได้รับการผ่อนคลายมาตรการให้ดำเนินการตามแนวทางของกรมควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด พร้อมยังคงมาตรการสำคัญคือ การสวมหน้ากากอนามัย ลงทะเบียนผ่านแอปพิเคชั่นไทยชนะควบคู่กับการโหลดแอป “หมอชนะ” ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด 19