วันที่ 19 มกราคม เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมอโยธยา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อพิจารณามาตรการในการป้องกันและควบคุมจากโรคไวรัส COVID-19 โดยมี นางสาวนุชนาถ ประทีปธีรานันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นายแพทย์พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯ คณะกรรมการฯ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม สำหรับสถานการณ์โรคโควิด-19 ภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีผู้ป่วยสะสม จำนวน 39 ราย รักษาหาย 27 ราย รักษาอยู่จำนวน 12 ราย ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงศูนย์พักฟื้นผู้ป่วย Hospitel โดยได้ มอบหมายให้เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ดำเนินการปรับปรุงและเตรียมความพร้อมหอพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยาให้เป็นสถานที่รองรับผู้ป่วยรักษาหายและเข้ามาพักฟื้นตามระยะเวลาของการรักษารวม 28 วัน ผลการดำเนินงานแล้วเสร็จกว่าร้อยละ 80 รวมถึงติดตามความก้าวหน้าการจัดการโรงพยาบาลสนามในพื้นที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมกรณีหากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก พร้อมพิจารณามาตรการผ่อนคลายให้เปิดสถานประกอบการ สปา เพื่อสุขภาพและสถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยให้สำนักงานสาธารณสุขจัดการอบรมให้ความรู้แนวทางการปฏิบัติป้องกันโรคแก่ผู้ประกอบการดังกล่าวก่อนเปิดให้บริการต่อไป
นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ของโรคโควิด-19 ภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยายังทรงตัว มีผู้ป่วยรักษาหายเข้าสู่ระยะการพักฟื้นเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องจัดหาสถานที่รองรับผู้ป่วยพักฟื้นก่อนส่งคืนสู่ชุมชนต่อไป ด้านการทำความเข้าใจกับชุมชน ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนโดยรอบ เพื่อให้ผู้ป่วยที่รักษาหายได้กลับสู่ชุมชน พร้อมแนะนำมาตรการสำคัญคือ การสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าทุกครั้งก่อนออกจากเคหสถาน ล้างมือบ่อยๆ เพื่อเป็นการป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโรคด้วย โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ตรวจเยี่ยมการคัดกรองค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก (Active case finding) ที่บริเวณโรงงานจักรกลสยาม ตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แนะนำแนวทางในการบริหารจัดการพื้นที่ในการตรวจค้นหาเชิงรุก เช่น การดูทิศทางลม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งตัวเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และผู้เข้ารับการตรวจเชื้อ ซึ่งในวันนี้มีเป้าหมายผู้เข้ารับการตรวจอยู่ที่ 900 คน นอกจากนี้ยังได้กำชับแก่ผู้แทนบริษัทฯ ให้ดำเนินการตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดทั้งภายในและภายนอกโรงงาน รวมถึงอาคารพักอาศัย เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณามาตรการผ่อนคลาย ให้เปิดสถานประกอบการ สปา เพื่อสุขภาพและสถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยให้สำนักงานสาธารณสุขจัดการอบรมให้ความรู้แนวทางการปฏิบัติป้องกันโรคแก่ผู้ประกอบการดังกล่าวก่อนเปิดให้บริการต่อไป
……………………………….