กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการรับเชื้อ HIV สามารถเข้ารับคำปรึกษาและตรวจหาการติดเชื้อได้ฟรีปีละ 2 ครั้งที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ก็สามารถรับบริการปรึกษาและตรวจหาการติดเชื้อได้โดยตรง เผยเชื้อนี้ไม่ได้ติดต่อกันง่าย สามารถติดต่อได้แค่ 3 ทางเท่านั้น พร้อมขอให้ผู้ปกครองดูแลและสังเกตบุตรหลานใกล้ชิด โดยเฉพาะการติดต่อสื่อสารกันผ่านโซเชียลมีเดีย เพราะอาจถูกล่อลวงและนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยได้ง่าย เสี่ยงติดเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวชายที่มีพฤติกรรมหลอกลวงเด็กชายไปมีเพศสัมพันธ์โดยติดต่อกันผ่านแอปพลิเคชั่นและสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ นั้น กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อ HIV ว่าเชื้อนี้ไม่ได้ติดต่อกันง่าย สามารถติดต่อได้แค่ 3 ช่องทางหลักเท่านั้น คือ 1.การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี ซึ่งเป็นช่องทางที่มีการติดเชื้อมากที่สุด และหากร่วมเพศทางทวารหนักอาจเกิดการถลอก ฉีกขาด เป็นแผลได้ง่าย มีโอกาสติดเชื้อมากกว่าช่องทางอื่น 2.การใช้เข็มหรือกระบอกฉีดยาร่วมกับผู้มีเชื้อ HIV และ 3.การถ่ายทอดเชื้อ HIV จากแม่สู่ลูก ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการถ่ายทอดเชื้อน้อยกว่าร้อยละ 0.5 นอกจากนี้ ปัจจัยที่ทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้ต้องมีองค์ประกอบครบ 3 ข้อ ทั้งช่องทางเข้าออกของเชื้อ ปริมาณของเชื้อ และคุณภาพของเชื้อ
สำหรับประชาชนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงหรือประเมินตนเองว่ามีโอกาสเสี่ยงต่อการรับเชื้อดังกล่าว สามารถเข้ารับคำปรึกษาและตรวจหาการติดเชื้อ HIV ได้ฟรี ปีละ 2 ครั้ง ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง โดยใช้เพียงบัตรประชาชนที่มีเลข 13 หลักเท่านั้น และรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสได้ฟรีตามสิทธิ สำหรับเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี สามารถรับบริการปรึกษาและตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีได้โดยไม่ต้องขอคำยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อให้รู้สถานะการติดเชื้อของตนเอง หากรู้ว่าติดเชื้อ HIV จะได้เข้ารับการรักษาทันที ทำให้วางแผนดูแลสุขภาพได้อย่างรวดเร็ว เป็นการหยุดการแพร่ระบาดเชื้อ HIV ได้อีกทางหนึ่ง และปัจจุบันการตรวจหาการติดเชื้อ HIV แบบทราบผลการตรวจในวันเดียว ทำให้ประหยัดเวลาและสามารถเริ่มการรักษาได้เร็ว จะทำให้มีสุขภาพดี ชีวิตยืนยาว เรียนหนังสือได้ ทำงานได้ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ขอแนะนำผู้ปกครองว่า ควรดูแล สอดส่อง และสังเกตบุตรหลานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการติดต่อสื่อสารกับบุคลที่ไม่รู้จักผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค ไลน์ แอปพลิเคชัน โปรแกรมสนทนาต่างๆ เพราะในช่วงวัยรุ่นอาจเกิดความคึกคะนอง อยากรู้ อยากลอง อาจถูกล่อลวงและนำไปสู่นำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยได้ง่าย เสี่ยงติดเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ หากพบเห็นบุตรหลานกระทำไม่เหมาะสม ต้องให้คำแนะนำที่ถูกต้อง ผู้ปกครองควรให้เวลากับลูกหลานและส่งเสริมให้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนให้ความสำคัญในการป้องกันตนเอง ดูแลสุขภาพ รับผิดชอบตนเองและผู้อื่น โดยการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ หากต้องการคำปรึกษาเรื่องสุขภาพทางเพศ สามารถเข้ารับบริการได้ที่สถานพยาบาลและเครือข่ายบริการที่เป็นมิตรใกล้บ้าน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนปรึกษาเอดส์ โทร.1663 หรือที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
*******************************************************
ข้อมูลจาก : สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ / สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค