สมุนไพรน่ารู้ อภัยภูเบศร : พญายอ กับการรักษาโรคผิวหนัง

พญายอ หรือเสลดพังพอนตัวเมีย เป็นสมุนไพรที่ขึ้นชื่อเรื่องการรักษาโรคเริม งูสวัด อีสุกอีใส หรือโรคผิวหนัง ลมพิษตามภูมิปัญญาพื้นบ้านของไทยมานานแล้ว นอกจากนี้ยังใช้ในการแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่ออีกด้วย 

สำหรับการใช้ พญายอ (หรือเสลดพังพอนตัวเมีย)

ตัวอย่างการใช้แบบพื้นบ้าน

  • ในการรักษาโรคเริม จะใช้ ใบสด 15-20 ใบ ผสมเหล้าขาว 28 ดีกรี 3 ช้อนโต๊ะ ตำคั้น เอาน้ำยาที่ได้มาทา และใช้กากยาพอกตรงที่มีตุ่มน้ำ ประมาณ 2-3 วัน ก็จะหายเป็นปกติ
  • งูสวัด ใช้ใบสด 15-20 ใบ ตำผสมเหล้า พอกตามตุ่ม รอยโรคของงูสวัดให้ทั่ว วันละ 2-3 ครั้ง (หรืออาจจะมากกว่านั้นเพื่อคุมเชื้อไม่ให้กระจายเพิ่ม เช่นทำทุก 4 ชั่วโมง) และใช้ใบสดอีก 15-20 ใบ ตำกับซาวข้าวครึ่งถ้วยชา กรองและคั้นเอาแต่น้ำดื่ม วันละ 2 ครั้งก่อนอาหาร เพื่อเป็นการขับพิษ
  • พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อ ใช้ใบสด 25-30 ใบ ตำผสมเหล้าขาวหรือน้ำซาวข้าว 3 ช้อนโต๊ะ คั้นกรองเอาแต่น้ำดื่ม และใช้กากพอกแผล

ทั้งนี้อาจจะเพราะประสบการณ์ของการใช้ พญายอ ในการรักษาโรคเริม งูสวัดได้ชะงัด ทำให้มีการศึกษาวิจัยถึงสรรพคุณนี้ของพญายออย่างกว้างขวาง ซึ่งพบว่าได้ผลดีกว่ายาแผนปัจจุบัน และที่สำคัญ ไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือแสบขณะใช้ แต่อาจมีข้อเสียตรงที่อาจจะทำให้เปื้อนเสื้อผ้าได้ง่ายไปเท่านั้นเอง

ต่อมามีการศึกษา ในโรงพยาบาลรามาธิบดี เรื่อง “การเปรียบเทียบประสิทธิผลของกลีเซอรีนพญายอ กับเบนไซดามีนไฮโดรคลอไรด์ในการป้องกันและบรรเทาอาการเยื่อบุช่องปากอักเสบของผู้ป่วยมะเร็งศีรษะและคอที่ได้รับรังสีรักษา” (เบนไซดามันไฮโดรคลอไรด์เป็นยาที่ใช้ในการรักษาเยื่อบุช่องปากอักเสบ) โดยมี รศ.ดร.พรรณวดี พุธวัฒนะ เป็นหัวหน้าคณะผู้วิจัย โดนได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ใช้กลีเซอรีนพญายอมีอาการและความเจ็บปวดจากเยื่อบุช่องปากอักเสบน้อยกว่า รวมทั้งเวลาเริ่มเกิดอาการก็ช้ากว่าด้วย นอกจากนี้ยังมีการศึกษาของนักศึกษาปริญญาโท คระแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เรื่อง “ประสิทธิผลของกลีเซอรีนพญายอในการป้องกันและบรรเทาอาการเยื่อบุช่องปากอักเสบในผู้ป่วยที่ได้รับเคมีบำบัด” โดยเก็บข้อมูลผู้ป่วยโรคมะเร็ง จำนวน 65 คน แบ่งผู้ป่วยเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มแรกให้เริ่มใช้กลีเซอรีนพญายอก่อนในช่วงของการให้ยาเคมีชุดแรก แล้วใช้กลีเซอรีนที่ไม่มีพญายอในช่วงถัดไป

กลุ่มที่สองได้รับกลีเซอรีนก่อน แล้วจึงได้รับกลีเซอรีนพญายอภายหลัง ผลการศึกษาพบว่า ระหว่างที่ได้รับกลีเซอรีนพญายอกลุ่มตัวอย่างเกิดอาการเยื่อบุช่องปากอักเสบช้ากว่า ความรุนแรงและจำนวนวันที่เกิดอาการน้อยกว่า และมีความพึงพอใจต่อการใช้กลีเซอรีนพญายอมากกว่าระหว่างที่ใช้กลีเซอรีนที่ไม่มีพญายอผสม

รวมถึงจากประสบการณ์ในการใช้กับผู้ป่วยสะเก็ดเงินของแพทย์แผนไทย ที่มีอาการหนังศีรษะแห้ง และลอกเป็นแผ่น ขุยขาว ให้ใช้กลีเซอรีนพญายอ ทาบริเวณที่มีอาการทิ้งไว้ 30 นาที หรือนานกว่านั้นตามสะดวก จากนั้นสระผมล้างยาออกให้สะอาด ทำซ้ำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หรือ วันเว้นวัน เพียง 2 สัปดาห์ผู้ป่วยสามารถสังเกตผลของผื่นที่ดีขึ้นได้ และไม่เกิดอาการคัน อาจเนื่องจากฤทธิ์ต้านการอักเสบของตัวยาและความชุ่มชื้นของกลีเซอรีนจึงช่วยลดความแห้งลอกและคันของรอยโรคได้

จากการศึกษาเหล่านี้ทำให้เห็นว่า นอกจากพญายอจะถูกใช้เพื่อรักษากลุ่มโรคเริม งูสวัด อีกสุกอีใส และโรคผิวหนัง พิษแมลงแล้ว ยังสามารถใช้ในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งที่เยื่อบุช่องปากอักเสบได้ ด้วยฤทธิ์ต้านการอักเสบของสมุนไพร และยังเป็นอีกหนึ่งการยืนยันถึงสรรพคุณและประสบการณ์การใช้สมุนไพรพื้นบ้านชนิดนี้ได้เป็นอย่างดี

สถาบันการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร

ปรึกษาเพิ่มเติมกับแพทย์แผนไทยผ่านคลินิกออนไลน์ https://lin.ee/47PRVjiFz