วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๔.๐๐ น. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี “มอบเงินตามคำพิพากษาของศาลคืนให้แก่ผู้บริโภค” กรณีเรื่องร้องเรียนบริษัท ไอส์แลนด์วิว จำกัด พร้อมด้วยพลตำรวจตรี ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และคณะผู้บริหาร ณ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอรื แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร
ต้นปี ๒๕๓๗ ผู้บริโภคประมาณ ๒๕๐ คน ได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดโครงการ จ้าวซันเรสซิเด้นท์ กับบริษัท ไอส์แลนด์วิว จำกัด ซึ่งเป็นอาคารชุดโครงการใหญ่ มีทั้งสิ้น ๑๐ อาคารจะทำการปลูกสร้าง บริเวณ คลองกุ่ม บางกะปิ กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีกำหนดเริ่มก่อสร้างเดือนมิถุนายน ๒๕๓๗ และกำหนดเสร็จเดือนกรกฎาคม ๒๕๓๙
แต่เมื่อถึงกำหนดปรากฏว่าโครงการไม่แล้วเสร็จ และได้หยุดการก่อสร้าง เนื่องจากประสบปัญหาทางการเงินเช่นเดียวกับบริษัทอื่นๆ อีกหลายแห่งในยุคฟองสบู่แตกทำให้ผู้ร้องได้รับความเดือดร้อน จึงมาร้องเรียนกับ สคบ. เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๑ สคบ. มีหนังสือขอทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินโครงการฯ ถึง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวกับทะเบียนนิติบุคคล และบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น รงมทั้ง สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาบึงกุ่ม พบข้อมูลน่าสนใจ คือ ได้มีการจำนองโฉนด ไว้กับบริษัท เงินทุนหลักทรัพย์ มหาธนกิจ จำกัด และบริษัทเงินทุนบางกอกเงินทุน จำกัด
ซึ่งบริษัททั้งสองแห่งถูกสั่งระงับการดำเนินกิจการไปแล้ว สคบ. ดำเนินการเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างบริษัท ไอส์แลนด์วิวฯ กับกลุ่มผู้เสียหาย แต่ไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้เนื่องจากบริษัทฯ จะคืนเงินให้กับผู้ร้องเรียนทุกรายเป็นจำนวนเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคมีมติในการประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๔๑
วันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๔๑ ให้ดำเนินคดีแพ่งกับบริษัท ไอส์แลนด์วิว จำกัด เพื่อบังคับให้คืนเงินที่ได้รับชำระไปแล้วทั้งหมด พร้อมทั้งดอกเบี้ยตามกฎหมาย ในช่วงที่ผ่านมา มีผู้บริโภคจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่ โครงการ จ้าวซันเรสซิเด้นท์ มีปัญหาไม่สามารถก่อสร้างได้แล้วเสร็จซึ่งมีการยื่นเรื่องร้องเรียนมายัง สคบ.เป็นระยะ โดยคดีสุดท้ายที่ศาลแพ่งมีคำพิพากษาให้ บริษัท ไอส์แลนด์วิว จำกัด ชดใช้เงินคืนให้ผู้บริโภค คือเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๐ ในขณะเดียวกัน กรมบังคับคดีได้ดำเนินการขายทรัพย์สินของบริษัทฯ มาตลอดช่วงระยะเวลา แต่ด้วยความที่เป็นโครงการใหญ่ การขายสินทรัพย์มูลค่าสูงจึงเป็นไปได้อย่างยากลำบาก จนกระทั่งรัฐบาลมีนโยบาย “บ้านประชารัฐ” ทำให้มีผู้ประกอบธุรกิจมาลงทุนในสินทรัพย์แห่งนี้ จึงทำให้เกิดเม็ดเงินคืนกลับมาสู่ประชาชนในที่สุด
รวมผู้เสียหายที่ สคบ.ทำเรื่องฟ้องดำเนินคดีให้ จำนวน ๒๕๔ คนรวมมูลค่าความเสียหายที่ผู้บริโภคได้รับการชดใช้ทั้งสิ้น ๕๓,๖๓๑,๓๘๒ บาท (ห้าสิบสามล้านหกแสนสามหมื่นหนึ่งพันสามร้อยแปดสิบสองบาทถ้วน)