กรมทรัพย์สินทางปัญญาจัดทีมรุกช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาตรวจสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา 3 หาดสำคัญเมืองภูเก็ต

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2563 กรมทรัพย์สินทางปัญญาลงตรวจสอบย่านการค้า 3 แห่งในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเคยเป็นแหล่งที่พบการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามาอย่างต่อเนื่อง
โดยในการสำรวจครั้งนี้พบว่า ย่านริมหาดกะรนและหาดกะตะไม่มีการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาแต่อย่างใด ในขณะที่ริมหาดป่าตองพบการจำหน่ายสินค้าละเมิดฯ ไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้านอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาเผยภาพรวมการจำหน่ายสินค้าละเมิดในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศมีแนวโน้มลดลง พร้อมเตรียมแผนคุมเข้มการละเมิดในพื้นที่ออนไลน์


นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า “ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาผู้แทนจากกรมทรัพย์สินทางปัญญาร่วมติดตาม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  ลงพื้นที่จัดกิจกรรม “ธงฟ้า on the beach & Seafood festival หรอยริมเล @ป่าตอง” ณ บริเวณชายหาดป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคัก หลังได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 โดยในโอกาสนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้นำเจ้าหน้าที่สำรวจตรวจสอบย่านการค้าที่เคยมีการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา 3 แห่งในภูเก็ต ได้แก่ หาดป่าตอง หาดกะรน และหาดกะตะ ปรากฏผลค่อนข้างน่าพอใจ เนื่องจากไม่พบการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในย่านการค้าริมหาดกะรน และหาดกะตะ ส่วนย่านการค้าริมหาดป่าตองมีสินค้าละเมิดไม่ถึง 10 % ของจำนวนสินค้าละเมิดที่เคยพบในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเป็นสินค้าประเภท เสื้อผ้า แว่นตา และหมวก ที่ขายปนกันระหว่างสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้ากับสินค้าทั่วไปอื่นๆ”

​สำหรับการดำเนินการต่อไป นายวุฒิไกรฯ กล่าวว่า “กรมทรัพย์สินทางปัญญาจะติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าละเมิดในย่านการค้าต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดอย่างใกล้ชิด และหารือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการร่วมกันไม่ให้มีการนำสินค้าละเมิดกลับมาจำหน่ายอีก หลังจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลง ซึ่งอาจรวมถึงการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง การทบทวนพื้นที่เป้าหมายในการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและภาคเอกชนเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา หรือที่เรียกว่า “พื้นที่สีแดง” ตลอดจนการสนับสนุนให้ผู้ค้าปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจหรือปรับเปลี่ยนสินค้าที่จำหน่ายให้เป็นของที่ถูกกฎหมายตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่”

“อย่างไรก็ดี แม้ภาพรวมการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศมีแนวโน้มลดลงเป็นลำดับ อาจเพราะส่วนหนึ่งได้ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายเป็นรูปแบบออนไลน์ จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย กรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงให้ความสำคัญกับการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาออนไลน์ โดยบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงาน กสทช. และภาคเอกชนเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา โดยในเดือนมกราคม 2564 กรมทรัพย์สินทางปัญญาจะจัดทำ MOU กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ภาคเอกชนเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา และแพล็ตฟอร์มจำหน่ายสินค้าออนไลน์ชั้นนำของประเทศและภูมิภาค 3 ราย ได้แก่ Lazada Shopee และ JD Central”

นายวุฒิไกรฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า “กรมฯ เชื่อมั่นว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นอีกก้าวสำคัญในการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการคุ้มครองสิทธิของเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว ยังเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคจากความเสียหายหรืออันตรายที่อาจได้รับจากการใช้ของปลอมที่ไม่มีคุณภาพอีกด้วย”

———————————–